หลังเกิดกรณี ชาติพันธุ์ว้า ปะโอ ปะหล่อง และไตแหลง(ชาติพันธุ์ไตแดง)ในรัฐคะฉิ่น ได้ร้องขอต่อรัฐบาลพม่าแยกออกจากรัฐฉาน ก่อตั้งเป็นรัฐใหม่ ในที่ประชุมสันติภาพระหว่างวันที่ 12 – 16 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุด ขุนทุนอู ประธานพรรคหัวเสือ หรือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติไทใหญ่เพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy -SNLD) ได้ออกมาเตือนว่า หากรัฐบาลยอมให้กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้แยกตัวออกเป็นรัฐใหม่ จะทำให้พม่ามีชะตากรรมไม่แตกต่างจากอดีตประเทศยูโกสลาเวียที่ล่มสลาย หลังแยกออกเป็นหลายประเทศ
ขุนทุนอูได้แสดงความคิดเห็นว่า หากทางรัฐบาลยังคงดำเนินแนวทางไม่สนใจก่อร่างสร้างประเทศและไม่สนใจที่จะให้ความสำคัญกับสิทธิเท่าเทียมของพลเมืองในประเทศ และยินยอมให้มีการแยกออกเป็นรัฐใหม่ เชื่อว่า จะทำให้พม่ามีชะตากรรมและมีปัญหาเหมือนกับประเทศไครเมียและอดีตสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย และจะทำให้พม่าล่มสลายเหมือนยูโกสลาเวียได้ หลังยูโกสลาเวียแยกออกเป็นหลายประเทศอย่าง โครเอเชีย สโลเวเนีย มาชิโดเนีย มอนเตเนโกร เซอร์เบีย คอซอวอเป็นต้น
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2551 (2008) พื้นที่ซึ่งถูกกำหนดให้อยู่ในเขตปกครองพิเศษว้ามีอยู่ 6 เมืองเท่านั้น คือ เมืองโหป่าง เมืองป๋างหวาย เมืองนาพาน เมืองใหม่ เมืองหมากหมาง เมืองป๋างซาง เป็นต้น ขณะที่เมืองในเขตปกครองพิเศษปะโอมีอยู่ 3 เมือง คือเมืองสี่แส่ง เมืองโหโปง และเมืองป๋างลอง
ขุนทุนอูยังระบุเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญปี 2551(2008) ว่า มีเป้าหมายที่ต้องการจะทำลายรัฐฉาน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดพื้นที่เขตปกครองพิเศษให้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่าง ว้า ปะโอและปะหล่อง ดังนั้นจึงไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องที่จะยอมให้ชาติพันธุ์ว้า ปะโอและปะหล่องแยกตัวออกไปได้หรือไม่ ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เนื่องจากปัญหานี้ ทางกองทัพพม่าเป็นคนที่สร้างขึ้นมาเอง โดยขุนทุนอูยังตั้งคำถามกลับว่า หากเอาดินแดนของชาวพม่ายกให้กับชาติพันธุ์บ้าง ทางชาวพม่านั้นจะมีความเห็นอย่างไร ขุนทุนอูกล่าว
โดยในประชุมสันติภาพที่เนปีดอว์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ตัวแทนของว้า ยังร้องขอเมืองทางเหนือของรัฐฉานอย่างเมืองล่าเสี้ยว เมืองต้างยาน และเมืองทางภาคตะวันออกอย่างเมืองเชียงตุง ท่าขี้เหล็ก เมืองสาดเหล่านี้ให้เข้าอยู่ในเขตปกครองของว้า และตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่ ซึ่งทางว้ายังยืนยันที่จะเดินหน้าขอแยกออกเป็นรัฐใหม่ต่อไปกับรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมระบุ การขอแยกตัวตั้งรัฐใหม่ ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะต้องการทำลายสหภาพพม่า แต่ทำไปเพื่อสิทธิของตัวเอง
ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Panglong
แปลโดย Transborder News