นักเคลื่อนไหวชาวคะฉิ่นราว 1,200 -1,400 คน จากหลายเมืองในรัฐคะฉิ่น ทางเหนือของประเทศ ได้นัดรวมตัวกันที่เมืองหว่ายหม่อ ในรัฐคะฉิ่น เพื่อเดินทางไปทำลายไร่ฝิ่นที่อยู่ทางภาคตะวันออกของรัฐ หลังพบมีการทำไร่ฝิ่นมากขึ้นในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเคลื่อนไหวกลับไม่ได้รับอนุญาตจากทางการพม่า โดยทางการพม่าอ้างว่า อาจเกิดสถานการณ์ไม่ปลอดภัย และเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ที่นักเคลื่อนไหวต่อต้านยาเสพติดจะปะทะกับเจ้าของไร่ฝิ่น
นายเจมส์ ซังดิง ผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านยาเสพติดในเมืองหว่ายหม่อเปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังทางการพม่าแล้ว เพื่อขออนุญาตทำลายไร่ฝิ่นที่อยู่รอบๆเมืองหว่ายหม่อ แต่ก็ถูกรัฐบาลท้องถิ่นปฏิเสธ โดยอ้างว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย จึงไม่อนุญาต เนื่องจากมีรายงานว่า เจ้าของไร่ฝิ่นและกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เตรียมจะเข้าทำร้ายกลุ่มนักเคลื่อนไหว หากพยายามที่จะทำลายไร่ฝิ่นของพวกเขา อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้กลุ่มนักเคลื่อนไหวก็ยังคงรอท่าทีจากทางการพม่าต่อไป และหวังทางการจะอนุญาตให้ดำเนินการในวันพรุ่งนี้ (22 มกราคม 2559)
นายเจมส์ ซังดิง กล่าวว่า ขณะนี้มีคนบางกลุ่มได้โทรศัพท์มาแจ้งนักเคลื่อนไหวว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในการหาพืชอื่นๆมาปลูกทดแทนฝิ่น ซึ่งทางกลุ่มก็ได้รับพิจารณาไว้ แต่กล่าวว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้ก็คือต้องทำลายไร่ฝิ่นเป็นอันดับแรก
มีรายงานว่า ในรัฐคะฉิ่นมีการทำไร่ฝิ่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตชนบทที่มีชายแดนติดกับประเทศจีน ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตโดยชายที่เชื่อกันว่าเป็นเจ้าของไร่ฝิ่นแห่งหนึ่ง เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังทางนักเคลื่อนไหวพยายามเข้าไปทำลายไร่ฝิ่นของชายคนดังกล่าว
การรณรงค์ทำลายไร่ฝิ่นนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยมีชาวคะฉิ่นตื่นตัวและเข้าร่วมรณรงค์เพิ่มมากขึ้น หลังเห็นปัญหาและผลกระทบจากยาเสพติด ชาวคะฉิ่นบางส่วนได้โพสต์ลง Facebook ว่า ประชาชนในรัฐคะฉิ่นนั้นเจอกับผลกระทบจากต้นตอปัญหายาเสพติดมาหลายสิบปี โดยข้อมูลจากองค์กรภาคสังคมต่อต้านยาเสพติดของคะฉิ่นระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา มีเหยื่อชาวคะฉิ่นเสียชีวิต 6 คนต่อวัน จากการใช้ยาเสพติด ขณะที่พม่ายังคงเป็นประเทศที่ปลูกฝิ่นมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน
ที่มา เฟสบุ้ค Jade Land Kachin/Irrawaddy
แปลโดย Transborder News