หน่วยงานของสหภาพยุโรปได้ออกมาเปิดเผยรายงาน พบเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทางเหนือของรัฐอาระกัน ทางตะวันตกของประเทศ กำลังเผชิญกับโรคขาดสารอาหารอย่างหนัก ซึ่งสาเหตุมาจากเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมเมื่อ 6 เดือนก่อนได้ทำลายแหล่งอาหาร พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย รวมถึงทำให้แหล่งน้ำที่สำคัญปนเปื้อน ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้ ร้อยละ 90 เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา ที่ถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองของประเทศ ถูกริดรอนสิทธิและจำกัดไม่ให้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การศึกษาและการจ้างงาน
นาง Roselyn Mullo ผู้ประสานงานโภชนาการในระดับภูมิภาค จากสำนักงานเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งสหภาพยุโรป (ECHO) เปิดเผยว่า ประชาชนทางภาคเหนือของรัฐอาระกัน โดยเฉพาะในเมืองมงดอว์ กำลังเผชิญกับสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหาร ระบุว่า ขณะนี้ ความหลากหลายของอาหารลดลง ทำให้ประชาชนมีอาหารไม่เพียงพอที่จะรับประทานในแต่ละวัน
“พวกเขาลดอาหารจาก 3 มื้อ เหลือ 1 มื้อต่อวัน หรือกินแค่อาหารประเภทเดียว บางส่วนอาศัยเพียงข้าวและน้ำ” นาง Roselyn Mullo กล่าว
โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 38 % ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 4,100 คน กำลังเผชิญกับโรคขาดสารอาหารรุนแรง แต่คาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ นอกจากนี้ยังพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่ขาดสารอาหารในระดับปานกลาง เพิ่มขึ้นอีก 19,200 คน ซึ่งคาดว่า ตัวเลขน่าจะสูงขึ้นต่อไปในปีนี้เช่นเดียวกัน
เมืองมงดอว์นั้น มีประชากรทั้งสิ้น 712,300 คน ในจำนวนนี้ 137,00 พบว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ขณะที่องค์การยูนิเซฟระบุว่า เด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ง่ายกว่าเด็กที่ไม่ขาดสารอาหารถึง 9 เท่า ซึ่งเด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้เด็กมีชีวิตรอดต่อไป
ทั้งนี้ องค์กร ECHO ได้ให้การสนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านโภชนาการ 60 วัน โดยการมอบอาหารที่มีพลังงานและสารอาหารสูงให้กับเด็กที่ขาดสารอาหาร รวมทั้งให้การตรวจวัดร่างกายและรักษาเด็กที่มีภาวะติดเชื้อเป็นรายสัปดาห์ ในปี 2558 ที่ผ่านมามีเด็กทั้งสิ้น 14,000 คนที่เข้าร่วมกับโครงการของ ECHO ในจำนวนนี้ 10,900 คน เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
ที่มา DVB
แปลโดย Transborder News