เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ชุมชนชาวเลหาดราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางเตือนใจ ดีเทศน์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร พร้อมตัวแทนหน่วยงานราชการ อาทิ นายกเทศมนตรีอำเภอเมือง และองค์การพัฒนาเอกชน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชาวเลราไวย์ หลังเกิดเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายชาวบ้านเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา โดย กสม.ได้ลงสำรวจพื้นที่บริเวณบาลัย (สุสานบรรพบุรษ) ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่มีข้อพิพาทกับนายทุน และร่วมกราบไหว้บาลัยพร้อมๆกับชาวบ้าน จากนั้นลงพื้นที่สำรวจสภาพหมู่บ้านชาวเลราไวย์โดยพบว่า ขณะนี้ชาวบ้านมีปัญหาสาธารณูปโภค เช่น บ่อน้ำใช้ที่อดีตมี 3 บ่อ ขณะนี้เหลือเพียง1 บ่อเนื่องจากชาวบ้านต้องจัดสรรพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยให้เท่าเทียมกัน บางคนอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีความเกี่ยวกับที่ดิน แหลายคนยังคงตกใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
โดยนางเตือนใจให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ตัวแทนชาวบ้านจะประชุมร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกชนผู้อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อหาทางออกกรณีปัญหาความขัดแย้งในที่ดินอย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นวันนี้ก็เน้นการรับฟังข้อเท็จจริงและสภาพปัญหาของชาวบ้าน ทั้งนี้ โดยส่วนตัวอยากให้ทุกฝ่ายเคารพในสิทธิมนุษยชนและอยากให้หน่วยงานราชการให้ความสำคัญกับอนุสัญญาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในเรื่องสิทธิชุมชนให้มากๆ อย่างไรก็ตามปัจจุบันกำลังมีการสอบสวนกรณีการออกโฉนดในที่ดินดังกล่าว ว่าชอบหรือมิชอบ และหากแม้ว่าเป็นการออกโฉนดโดยชอบก็ต้องแบ่งทางสาธารณะให้ชาวเล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็จะได้พูดคุยกับคุณชาลี โสภณพาณิชย์ เจ้าของบริษัทบารอนเวิลด์ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินต่อไป
ด้านนางปรีดา คงแป้น ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้รายงานปัญหาต่างๆ ให้ กสม.รับทราบ ซึ่งส่วนมากเป็นการร้องเรียนเรื่องสิทธิในการใช้ที่สาธารณะ และการเข้าถึงสาธารณูปโภคในชุมชน ส่วนกรณีความขัดแย้ง น่าจะต้องรอกระบวนการพิสูจน์ อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังแบ่งเวรยามเฝ้าสถานการณ์ในพื้นที่อย่างเข้มงวด และยังมีความหวังว่าจะสามารถอาศัยอยู่ในบ้านราไวย์ได้อย่างสงบสุข ส่วนตัวอยากให้ตำรวจเร่งติดตามคดีเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ
รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้นอกจากการลงพื้นที่ของ กสม.แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรตำบลฉลองได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติมกรณีการทำร้ายร่างกาย โดยพบเป็นท่อนไม้จำนวนหลายสิบท่อนที่บริเวณลานใต้ต้นมะขามของชุมชนชาวเลหาดราไวย์
พ.ต.อ. สมาน ชัยณรงค์ รองผู้กับการสถานีตำรวจตำบลฉลอง อำเภอเมือง กล่าวว่า ในอีก 2-3 วันน่าจะมีความคืบหน้าของคดีความ แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยากเปิดเผยสำนวนรายละเอียดการแจ้งความมากนัก เกรงว่าจะเสียรูปคดี แต่คิดว่าคดีนี้ก็จบไม่ง่าย เพราะนอกจากกลุ่มชาวเลราไวย์แจ้งความดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์แล้ว คู่กรณีได้แจ้งความกลับข้อหาทำร้ายร่างกายเช่นกัน ดังนั้นเบื้องต้นประเมินว่าอาจเป็นการทะเลาะวิวาทจนเหตุปะทะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมาย
///////////////////////////////////////
