
กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติดาราอั้ง(Ta’ang National Liberation Army) หรือทหารปะหล่อง TNLA ส่งสัญญาณพร้อมเจรจาเพื่อยุติทำสงครามกับ สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน(RCSS/SSA) ทางภาคเหนือของรัฐฉาน โดยเฉพาะในเมืองจ้อกเม เมืองน้ำคำ เมืองม่านต้ง เมืองน้ำสั่นและเมืองโก้ดข่าย ซึ่งทหารทั้งสองฝ่ายยังปะทะกันต่อเนื่องในพื้นที่เหล่านี้ จนทำให้มีผู้้พลัดถิ่นภายในหลายพันคน โดยกลุ่มติดอาวุธทั้งสองกลุ่มต่างเคลื่อนไหวและเป็นชาติพันธุ์ที่อยู่ในรัฐฉาน ความขัดแย้งส่อเค้ามาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ของปีที่แล้ว
ทหารปะหล่อง TNLA อ้างว่า ทหารไทใหญ่ RCSS/SSA ได้เข้ามาเคลื่อนไหวในเมืองจ้อกเมและเมืองน้ำคำเมื่อช่วงระหว่างปลายปี 2552 ถึง 2553 โดยที่ผ่านมา ทาง TNLA ได้เตือนทาง RCSS/SSA มิให้ขยายเขตปกครองเข้ามาในพื้นที่เหล่านี้ แต่ก็ถูกเพิกเฉยมาตลอด ซึ่งทาง TNLA ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องเห็นประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเองเพราะสงคราม โดยย้ำว่า ปัญหาความขัดแย้งจะจบลงหากทาง RCSS/SSA ยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ทาง TNLA ยังเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ทาง RCSS/SSA ได้ลงนามหยุดยิงแห่งชาติกับรัฐบาลพม่า ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันบ่อยมากขึ้น
นอกจากส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะหารือแก้ปัญหากับทาง RCSS/SSA แล้ว ทางปะหล่อง TNLA ยังได้ร้องขอให้ทาง UNFC ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 9 กลุ่ม เป็นตัวกลางช่วยประสานกับทาง RCSS/SSA อีกด้วย ด้านนายทุนซอว์ เลขาธิการร่วมของ UNFC เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้ง 2 กลุ่มนั้นพร้อมที่จะเจรจา ซึ่งทาง UNFC จะต้องติดต่อประสานกับทั้งสองกลุ่มอีกทีเกี่ยวกับกำหนดการวันที่จะพบหารือ รวมถึงตัวแทนที่จะพบหารือเจรจา มีรายงานว่า ทางปะหล่อง TNLA ต้องการที่จะพบกับ RCSS/SSA บริเวณชายแดนจีน ขณะที่ทาง RCSS/SSA ต้องการที่จะให้การหารือเกิดขึ้นที่บริเวณชายแดนไทย นายทุนซอว์กล่าว
โดยทาง TNLA อ้างว่า ทาง RCSS/SSA นั้นได้ลงนามกับรัฐบาลพม่าแล้ว ดังนั้นจึงสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ แต่ทาง TNLA นั้นยังไม่ได้ลงนามหยุดยิง จึงยากลำบากในการเดินทาง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง RCSS/SSA เองได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ TNLA ทบทวนต้นตอของปัญหาและหาทางยุติความขัดแย้ง ซึ่งที่ผ่านมา ทาง RCSS/SSA ได้เรียกร้องให้ใช้สันติวิธีแก้ปัญหา เพราะต่างเป็นชาติพันธุ์เดียวกันในรัฐฉาน ที่ผ่านมา เมื่อเดือน มกราคม โฆษกของ RCSS/SSA เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ทางกลุ่มนั้นไม่ต้องการทำสงครามกับกลุ่มไหน แต่ต้องการคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกกลุ่ม
อีกด้านหนึ่ง สงครามทางเหนือรัฐฉาน ทำให้มีชาวบ้านหนีสงครามเข้ามาอาศัยตามวัดในเมืองจ้อกเมแล้วเกือบ 2,000 คน และที่เมืองวีอีก 550 คน ส่วนทางองค์กรภาคสังคมในเมืองจ้อกเม อย่างกลุ่มชาวไร่ชาวนา กลุ่มวัฒนธรรม รวมถึงพรรคการเมืองและอีกหลายๆ กลุ่มได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุขอต่อต้านไม่ยอมรับการกระทำของทหารปะหล่อง TNLA ที่ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสงคราม การยึดบ้านเรือน และโจมตีหมู่บ้านที่พลเรือนอาศัยอยู่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้เรียกร้องให้ยุติการจับกุม ทำร้ายร่างกาย ฆ่าสังหารชาวบ้านและพระสงฆ์ รวมถึงเรียกร้องให้ทั้งสองกลุ่มติดอาวุธไม่นำเสนอข่าวที่จะสร้างความแตกแยกระหว่างชาติพันธุ์ในรัฐฉานด้วยกัน
ที่มา Eleven Media Group/เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Panglong
แปลโดย Transborder News