Search

รองประธาน สนช. รับปากชาวเล ส่งเรื่องให้ กมธ. สอบข้อเท็จจริงชุมชนราไวย์

12751962_1047997595243525_245817512_o
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ที่อาคารรัฐสภา กลุ่มชาวเลราไวย์ จำนวน 30 คน ที่ประสบปัญหากรณีพิพาทเรื่องที่ดินกับเอกชนมายาวนาน และเป็นเหตุให้ถูกทำร้ายจากกลุ่มชายฉกรรจ์เมื่อปลายเดือนมากราคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อขอให้เร่งแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิชุมชนชาวเลบ้านราไวย์ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายสุุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) รับหนังสือจากชาวบ้าน

ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า 1.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 โดยเฉพาะการยกระดับคณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดิน ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล ชุด พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2.กรณีกรมที่ดิน ขอให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกมิชอบ กรณีชุมชนชาวเล จำนวน 19 ไร่ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รวบรวมหลักฐาน และที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติส่งเรื่องเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกมาทับที่ชาวบ้าน ซึ่งยังไม่มีการผลการดำเนินการใดๆ จากกรมที่ดิน 3.ด้วยปัญหาความล่าช้าและข้อติดขัดของอธิบดีกรมที่ดิน ในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกมิชอบ จึงขอเสนอให้ สนช.แก้กฎหมายที่ดิน มาตรา 61 เพื่อให้มีกลไกกลางในการดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แทนกรมที่ดิน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และยุติธรรมกับทุกฝ่าย

4.ให้รัฐเร่งมอบหมายให้คณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดินฯ ชุด พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธานตรวจสอบกระบวนการออกเอกสารสิทธิของบริษัทบารอน เวิร์ดเทรด จำกัด จำนวน 33 ไร่ ที่ออกทับพื้นที่และทางเดินสาธารณะและพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน 5.ขอให้เร่งสังการให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายชาวเล ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งมีหลักฐานภาพถ่าย และอาวุธอย่างชัดเจน

นายสุรชัย กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า จะรับปัญหาของชาวเลไปพิจารณาเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งตนเองติดตามปัญหานี้ผ่านสื่อมวลชนมาโดยตลอด เข้าใจว่าที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานลงไปในพื้นที่ โดยเฉพาะ ดีเอสไอ ที่ลงไปตรวจสอบหลักฐานจนมีการเสนอให้เพิกถอนที่ดินชุมชน 19 ไร่ รวมไปถึงที่ดินจำนวน 33 ไร่ ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าทับที่สาธารณะ จึงจำเป็นต้องลงไปดูว่าเหตุใดจึงเกิดความล่าช้าในการแก้ปัญหา โดยอาจจะมอบให้คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดินรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง และอาจจะต้องลงไปดูในพื้นที่ต่อไป

ด้านนายสนิท แซ่ซั่ว กล่าวว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม จากนั้นจะเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ต เพื่อรอติดตามการแก้ปัญหาจากหน่วยงานต่างๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังการมอบหนังสือ กลุ่มชาวเลราไวย์ ยังได้พบกับตัวแทนชาวบ้านจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ และตัวแทนสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ที่เดินทางมายื่นหนังสือที่รัฐสภาพในเวลาเดียวกัน จึงได้มีการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเข้าร่วมยื่นหนังสือเรียกร้องให้คืนสิทธิชุมชนในร่างรัฐธรรมนูญ และยุติความฉ้อฉลไม่เคารพสิทธิชุมชนกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา รวมทั้งเร่งแก้ปัญหาที่ดินชุมชนชาวเลราไวย์ ต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมี นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
——————–

On Key

Related Posts

หวั่นท่องเที่ยวพินาศหลังน้ำกกกลายเป็นสีขุ่นข้นจากเหมืองทองตอนบนในพม่า นายกฯอบต.ท่าตอนเตรียมทำหนังสือจี้รัฐบาลเร่งแก้ไข-ชาวเชียงรายเริ่มไม่กล้าเล่นน้ำ เผยปลาหายไป 70% ทสจ.ส่งทีมตรวจสอบคุณภาพน้ำ

———เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 พ.Read More →

ผบ.สส.เร่งหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพน้ำกกหลังชุมชนผวาสารพิษเจือปนจากการทำเหมืองทองฝั่งพม่า ภาคประชาชนเผยน้ำกกขุ่นเพิ่มจากปีก่อน 8 เท่าหวั่นกระทบน้ำดิบทำประปา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดีRead More →