Search

ซูจีเตรียมหารือมิ้นอ่องหล่าย ผบ.สส.พม่าอีกรอบ คาดปมการบริหารประเทศร่วมกัน-แก้กฎหมายเปิดทางให้ซูจีขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ

ภาพจากเฟซบุ๊ก NLD Chairperson
ภาพจากเฟซบุ๊ก NLD Chairperson

การพบหารือรอบที่ 3 ระหว่างนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD และพลเอก มิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า อาจจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าการหารือกันอีกครั้งน่าจะเกี่ยวกับประเด็นการร่วมกันบริหารประเทศระหว่างกองทัพและพรรค NLD รวมไปถึงประเด็นกฏหมายที่ปิดกั้นไม่ให้นางซูจีขึ้นเป็นประธานาธิบดี โดยทางพรรค NLD ได้ขอนัดประชุมกับกองทัพตั้งแต่ก่อนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตอบตกลง

ทั้งนี้ ดร.ติ่นเมียววิน แพทย์ประจำตัวของนางซูจีที่หลายคนคาดการณ์กันว่า อาจเป็นผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของพม่า อาจจะเข้าร่วมหารือกับทางกองทัพด้วย เช่นเดียวกับการประชุมเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวรายงานว่า ระหว่างนางซูจีและผู้นำสูงสุดของกองทัพยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียด เกี่ยวกับกฎหมายข้อที่ 59 (f) ที่ห้ามนางซูจีขึ้นเป็นประธานาธิบดี เพราะมีสามีและบุตรชายถือสัญชาติอื่น

ขณะที่นายอูยัน เมียวเต่ง นักวิเคราะห์การเมืองพม่าระบุว่า เป็นเรื่องที่ยากที่จะเปลี่ยนจุดยืนของกองทัพเกี่ยวกับกฎหมายข้อที่ 59 (f) อย่างไรก็ตาม หากทั้งสองฝ่ายสามารถที่จะพบกันรอบที่ 3 ได้ เชื่อว่าน่าจะมีผลลัพธ์บางอย่างเกิดขึ้นก่อนวันที่ 17 มีนาคม

แหล่งข่าวจากพรรคเอ็นแอลดีกล่าวว่า การร่วมกันบริหารประเทศ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีสำหรับทหาร ประเด็นเรื่องการปรองดองแห่งชาติของพรรค NLD รวมไปถึงเรื่องตำแหน่งหัวหน้ารัฐมนตรีในรัฐคะฉิ่น รัฐฉานและรัฐอาระกันนั้น ยังอยู่ในระหว่างการหารือ แต่จนถึงขณะนี้ นางอองซาน ซูจียังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเสนอชื่อให้มีคนทำหน้าที่ประธานาธิบดีแทน หรือจะเจรจากับทางกองทัพให้เปิดทางให้เธอสามารถขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ แต่ถ้านางซูจีตัดสินใจจะเสนอชื่อคนที่จะบริหารตำแหน่งประธานาธิบดีแทน คาดว่าจะมีการเสนอชื่อภายในวันที่ 17 มีนาคมนี้

อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวท้องถิ่นของพม่ารายงานว่า พลเอกมิ้นอองหล่าย วัย 60 ปี จะยังคงอยู่ตำแหน่งต่อไปอีก 5 ปี เช่นเดียวกับพลเอกโซวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เลเอกมิ้นอ่องหล่ายสามารถกุมอำนาจในกองทัพและมีอำนาจในการเจรจาต่อรองกับนางซูจี อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวท้องถิ่นไม่ได้รายงานว่า เรื่องนี้จะได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีเต็งเส่งหรือไม่ เพราะตามกฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบันกำหนดให้ทหารเกษียณอายุราชการเมื่ออายุครบ 60 ปี โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดกระแสข่าวว่า พลเอกมิ้นอ่องหล่ายอาจเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของพม่า ขณะที่ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค NLD น่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้

ที่มา Myanmar Times
แปลโดย Transborder News