Search

กลาโหมพร้อมปรับกฎให้คนข้ามเพศเกณฑ์ทหารปลอดภัย ไม่ถูกละเมิดสิทธิ นักพัฒนาเอกชน ชี้สิทธิทางเพศสภาพไม่ใช่ความผิดปกติ

20160219_184942
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพโครงการจัดตั้งมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และภาคีรวมกันจัดงานแถลงข่าว “เมื่อดิฉันต้องไปเกณฑ์ทหาร” เพื่อรณรงค์ให้บุคคลที่มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดได้รับข้อมูลข่าวสารก่อนการเข้าร่วมกิจกรรมเกณฑ์ทหารของกระทรวงกลาโหมประจำปี 2559

นายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ ประธานโครงการจัดตั้งมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยฯ กล่าวว่า ในอดีตประเทศไทยเคยมีกระแสต่อต้านเพศสภาพที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิดมากมาย โดยเฉพาะเมื่อช่วงเกณฑ์ทหารนั้นพบว่ามีกลุ่มดังกล่าวถูกคุกคาม ละเมิดทางร่างกาย และละเมิดด้วยวาจาหลายกรณี จนบางกรณีถึงขั้นดำเนินคดีในชั้นศาล ทั้งนี้ปัญหาที่พบคือในอดีตนั้นกลุ่มเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด (Gender Identity Disorder) เมื่อผ่านช่วงคัดเลือกทหารเกณฑ์แล้ว เจ้าหน้าที่คัดเลือกจะมีการระบุว่ากลุ่มเพศดังกล่าวป่วยโรคจิตถาวร หรือมีจิตผิดปกติในใบรับรองผลการตรวจคัดเลือกทหารกองเกิน (สด.43) ซึ่งส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบเมื่อไปสมัครงานอื่น เนื่องจากองค์กรที่รับเข้าทำงานมีการพิจารณาเอกสารที่ผ่านการเกณฑ์ทหารประกอบด้วย และเมื่อทางฝ่ายคัดเลือกระบุเช่นนั้นเท่ากับเหมารวมว่าพวกเขาป่วยทางจิต ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตระยะยาวได้ ทางเครือข่ายฯ จึงได้รณรงค์และยื่นข้อเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมแก้ไขเกณฑ์การตรวจคัดเลือกทหารสำหรับกลุ่มเพศดังกล่าว โดยประกาศเป็นเกณฑ์ปฏิบัติทั่วประเทศ ให้แต่ละหน่วยคัดเลือกทหารเกณฑ์ ปฏิบัติกับเพศดังกล่าวอย่างเหมาะสม เท่าเทียม และเสมอภาค

“ในแต่ละปีมีกลุ่มเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดเข้าร่วมการเกณฑ์ทหารประมาณ 900 คน จากการสังเกตการณ์เปรียบเทียบอดีตและปัจจุบันพบว่า เมื่อเราร้องเรียนให้กลาโหมแก้ไขปรับปรุง พบสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อเพศภาพที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิดน้อยลง ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีและอยากให้ทำต่อไป ผมไม่อยากให้มีการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่แซวเรื่องการแต่งตัวของกะเทย หรือใคร ในลักษณะการถามหาเพศวิถี ถามหาการผ่าตัดแปลงเพศ และขอดูอวัยวะใด อวัยวะหนึ่งในกลุ่มนี้เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญในการพิสูจน์ร่างกายคนที่มาเกณฑ์ทหาร ” นายรณภูมิกล่าว

นายรณภูมิ กล่าวต่อว่า แต่ละปีมีคนร้องเรียนเรื่องกลุ่มเพศสภาพที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด กรณีข้อกังวลเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารกว่า 200 ข้อความ โดยส่วนมากระบุว่าไม่ต้องการเกณฑ์ทหาร เนื่องจากกลัวว่าโดนปฏิบัติไม่เหมาะสม เช่น ถอดเสื้อ รวมถึงการใช้คำพูดของประชาชนที่มาคัดเลือกทหารที่สร้างความอับอาย นอกจากนี้บางหน่วยคัดเลือกพบว่า มีกรณีระบุว่าป่วยทางจิตเภท สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงการศึกษาเรื่องเพศว่า คนเราไม่ได้มีแค่สองเภทเท่านั้น

ด้านพันโท ปิยะชาติ ประสานนาม นายทหารการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เกณฑ์การดำเนินงานเรื่องการเกณฑ์ทหารสำหรับกลุ่มเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดมี 3 ระดับ ที่บังคับให้หน่วยคัดเลือกทหารปฏิบัติตาม ได้แก่ระดับ 1 กรณีที่เป็นผู้ซึ่งได้รับการผ่าตัดแปลงเพศเรียบร้อยแล้ว ให้พิจารณาใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก แล้วให้ระบุชัดเจนในรับรองฯ ว่า เป็นผู้มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด ระดับที่ 2 กรณีผู้ที่มีการแต่งกายภายนอก และมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนบางอย่างในร่างกาย อาทิ การเสริมหน้าอก การแต่งหน้า แต่งตัว แสดงออกว่ามีเพศสภาพไม่ตรงเพศกำเนิด ให้มีการตรวจซ้ำจากเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจตรวจ โดยสังเกตได้จากเจ้าหน้าที่ทหารในหน่วยที่มีปลอกแขนสีแดง จากนั้นค่อยคัดออก เว้นแต่เจ้าตัวจะมีความเต็มใจเข้าเป็นทหารเอง

พันโท ปิยะชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงกลาโหมมอบนโยบายให้ประธานคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารในแต่ละหน่วยเป็นข้อปฏิบัติว่า ในวันเกณฑ์ทหาร ถ้ามีบุคคลที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดให้ปฏิบัติเหมือนเป็นสุภาพสตรี ต้องจัดเก้าอี้ให้นั่ง ไม่ใช้คำพูด กิริยา ไม่เหมาะสม และหากต้องตรวจร่างกายต้องตรวจในห้องลับเท่านั้น ไม่ทำในที่สาธารณะ

ขณะที่ฐิตินันท์ หนักป้อ ผู้อำนวยการมูลนิธิซิสเตอร์พัทยา กล่าวว่า ในเมื่อกระทรวงกลาโหม เริ่มทำความเข้าใจเรื่องเพศสภาพแล้ว อยากให้ประเทศไทยกระจายความรู้เรื่องเพศสภาพให้เกิดขึ้นทุกกระทรวง เพื่อให้เกิดการยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่การยอมรับด้านการเกณฑ์ทหารเท่านั้น ทั้งนี้ในด้านการยอมรับกลุ่มที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดหลังเกณฑ์ทหารนั้นไม่ควรมีการบันทึกข้อมูลในใย สด.43 ถึงผลการตรวจสภาพจิตใจ และการรับคนเข้าทำงานในประเทศไทยก็ไม่ควรมีการระบุหลักเกณฑ์ว่า เพศกำเนิดชายต้องผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการทำงานของบุคคลนั้นๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกะเทย เป็นหญิง เป็นชาย ก็ควรมีสิทธิ์เท่าๆกัน ประเทศไทยไม่ควรคิดและจัดระบบรับเข้าทำงานในบริษัทต่างๆ แบบแบ่งแยกเพศ

อนึ่ง กำหนดการคัดเลือกทหารเกณฑ์ในประเทศไทยปี 2559 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 เมษายน 2559 ซึ่งโครงการจัดตั้งมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยฯ ได้จัดทำสื่อทั้งวีดิทัศน์และแผ่นพับ พร้อมข้อมูลสื่อออนไลน์ประชาสัมพันธ์สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดให้เข้าใจหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเตรียมตัวก่อนกิจกรรมเข้ารับคัดเลือกทหารเกณฑ์ตามกฎหมายไทยอย่างถูกต้อง พร้อมเปิดให้บริการคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยศึกษารายละเอียดได้ที่ www.thaitga.com โทร 08-6597-4636

/////////////////////////