
กรมพัฒนาชนบท กระทรวงปศุสัตว์ การประมงและการพัฒนาเขตชนบทของพม่า ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมให้ความช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนใน 49 หมู่บ้าน จาก 23 เมืองที่กำลังประสบภัยแล้งและขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดอย่างหนัก
มีรายงานว่า กรมพัฒนาชนบทของพม่าได้เริ่มแจกจ่ายน้ำไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศพม่า เช่น เขตสะกาย มัณฑะเลย์ มะกวย เขตเนปีดอว์ รวมไปถึงรัฐคะเรนนีและรัฐมอญตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายจ่อซอว์ ผู้อำนวยการทั่วไปของกรมพัฒนาชนบทเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มได้พยายามช่วยเหลือประชาชน โดยการขุดเจาะบ่อน้ำในหมู่บ้านที่สามารถทำได้ ขณะที่ในรัฐอาระกัน มีการสูบน้ำจากหนองน้ำหรือทะเลสาบที่มีการขุดไว้มาช่วยเหลือชาวบ้าน
ตามข้อมูลของทางการพม่าพบว่า พื้นที่ในเขตแห้งแล้งของพม่า เช่น พื้นที่ราบของเขตสกายไปจนถึงทางตะวันตกและทางตอนกลางของเขตมัณฑะเลย์ รวมถึงเขตมะกวยทั้งหมด ครอบคลุม 58 เมือง และเป็นพื้นที่ซึ่งมีประชากร 1 ใน 4 อาศัยอยู่ พบว่าเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งและต้องการน้ำมากที่สุด
จากข้อมูลของกรมพัฒนาชนบทพม่ายังระบุว่า มี 1,700 หมู่บ้านทั่วประเทศจะเผชิญกับภัยแล้ง โดย 1,000 หมู่บ้านจะเผชิญภัยแล้งภายในหนึ่งเดือนนี้ ดังนั้นทางกลุ่มจึงได้เตรียมงบประมาณ 78 ล้านจั้ต (ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในเดือนนี้ โดยคาดการณ์ว่า รัฐบาลชุดใหม่นำโดยพรรค NLD จะจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลพม่าและนักสิ่งแวดล้อมได้ออกมาเตือนว่า เขตอิรวดี เขตมัณฑะเลย์ เขตพะโค รวมไปถึงรัฐอาระกันและรัฐฉานจะเผชิญกับภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง สาเหตุมาจากปรากฎการเอลนีโญ เช่นเดียวกับนักพยากรณ์อากาศที่เตือนว่า ปรากฎการเอลนีโญอาจทำให้ประเทศพม่ามีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 45 องศาในปีนี้เช่นเดียวกัน
ด้านกลุ่มสหพันธ์ข้าวพม่า (The Myanmar Rice Federation -MRF) ได้ออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้กักตุนข้าวสารบางส่วนไว้ เนื่องจากเกรงว่า เกษตรกรอาจต้องทำนาช้ากว่ากำหนดในปีนี้ สาเหตุเพราะภัยแล้งและอาจทำให้ข้าวสารขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นได้
ที่มา Irrawaddy
แปลโดย Transborder News