
สำนักข่าว Tai Freedom มารายงานว่า ขณะนี้ทางเมือง “หม่าจ่าหย่าง” ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งอยู่ในเขตควบคุมของกองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ติดกับชายแดนจีน ด้านมณฑลยูนนาน ได้ออกคำสั่งห้ามประชาชนหรือคนที่จะเข้าไปในพื้นที่พูดภาษาพม่าโดยเด็ดขาด โดยหากฝ่าฝืนจะถูกเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจของคะฉิ่นจับกุมและต้องเสียค่าปรับจึงจะได้รับการปล่อยตัว นอกจากนี้ มีรายงานว่า ทางทหารคะฉิ่น KIA ไม่ให้ชาวพม่าเข้าไปในเมืองหม่าจ่าหย่างด้วย
มีการเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีชาวพม่าจำนวน 5 รายที่ไปหางานทำในพื้นที่ให้กับนายจ้างจีนในมาจายางถูกจับกุม โดยได้รับการปล่อยตัวหลังจากยอมเสียค่าปรับคนละ 280.000 จั้ต (ประมาณ 8,100 บาท) ทั้งนี้ทางสำนักข่าวไทใหญ่ Tai Freedom ได้ออกมาเตือนให้ชาวไทใหญ่ที่จะเดินทางไปในพื้นที่ระมัดระวังอย่าใช้ภาษาพม่าหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังเมืองดังกล่าว
อีกความเคลื่อนไหวหนึ่งจากกลุ่มองค์กรด้านศาสนาและพรรคการเมืองคะฉิ่น 61 กลุ่มได้เป็นตัวแทนของชาวคะฉิ่นและกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดการสกัดเอาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในรัฐคะฉิ่น ทางเหนือสุดของประเทศ จนกว่าจะแน่ใจว่าในพื้นที่นั้นมีความสงบสุขและความมั่นคงทางการเมืองเกิดขึ้นเสียก่อน ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่มีการหยิบยกเอาประเด็นการกำกับดูแลเรื่องทรัพยากรธรรมชาติในรัฐคะฉิ่นมาหารือพูดคุยในการประชุมที่จัดขึ้นที่เมืองมิตจีนา เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่นเมื่อเร็วๆ นี้
ในแถลงการณ์ระบุเรียกร้องว่า ขอให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหยุดการดำเนินการโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการตักตวงเอาทรัพยากรธรรมชาติในเขตของกลุ่มชาติพันธุ์ จนกว่าจะแน่ใจว่า มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเสียก่อน ระบุอีกว่า ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่มีสาเหตุมาจากผลประโยชน์ในด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยชาวคะฉิ่นนั้นเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในรัฐโดยชอบธรรม ดังนั้นจึงเรียกร้องให้นักธุรกิจเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส เพราะประชาชนท้องถิ่นมีสิทธิ์ที่จะต้องรู้ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องแจ้งและได้รับความยินยอมจากชุมชน ก่อนที่จะอนุญาตให้มีการดำเนินการโครงการใดๆในพื้นที่ ในแถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ รัฐคะฉิ่นเป็นอีกรัฐที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่าง ทองคำ หยกและหินมีค่าอื่นๆ รวมไปถึงป่าไม้สัก อย่างไรก็ตาม เป็นอีกรัฐที่มีความขัดแย้งและสงครามระหว่างทหารพม่าและทหารคะฉิ่น KIA หลังจากที่สัญญาหยุดยิง 17 ปี ระหว่างทั้งสองกลุ่มแตกหักเมื่อปี 2554 นับตั้งแต่นั้นมาทำให้ทั้งสองฝ่ายทำสงครามกันเรื่อยมา ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยในรัฐคะฉิ่นนับแสนคน โดย KIA เป็นอีกกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ยังไม่ลงนามหยุดยิงแห่งชาติกับรัฐบาลพม่า
ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Tai Freedom/Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย Transborder News