วันนี้ (30 มีนาคม 59) นายอูถิ่นจ่อ ประธานาธิบดี พร้อมนายมิ้นส่วย และนายเฮนรี บันทียู รองประธานาธิบดีได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่รัฐสภาพม่า ที่เมืองหลวงเนปีดอว์อย่างเป็นทางการ โดยนายอูถิ่นจ่อ วัย 69 ปี เป็นประธานาธิบดีจากฝ่ายพลเรือนเป็นคนแรกของพม่าในรอบ 54 ปี โดยในวันนี้ยังมีพิธีมอบอำนาจจากรัฐบาลเก่าที่นำโดยเต็งเส่งให้กับรัฐบาลใหม่ นำโดยนายอูถิ่นจ่อ สิ้นสุดระยะเวลาการถ่ายโอนอำนาจ 144 วันนับตั้งแต่พรรค NLD ชนะการเลือกตั้ง
ในวันเดียวกันนี้ สมาชิกคณะศาลรัฐธรรมนูญ ประธานสภา คณะกรรมการเลือกตั้งและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD ที่จะบริหารใน 4 กระทรวงคือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสำนักประธานาธิบดี มีรายงานว่า นายอูถิ่นจ่อได้สร้างความประหลาดใจเมื่อเขาขึ้นกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะเดินหน้ามุ่งมั่นต่อไปในการสร้างรัฐธรรมนูญที่จะรับประกันประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ นายอูถิ่นจ่ออยังระบุว่า รัฐบาลใหม่จะมุ่งมั่นสร้างความปรองดองแห่งชาติ และบรรลุเรื่องสันติภาพให้สำเร็จ โดยยังกล่าวว่า รัฐบาลจะทำตามแนวทางการเมืองที่ประชาชนต้องการซึ่งรอคอยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งหมายถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอูถิ่นจ่อ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดทนเพื่อบรรลุในสิ่งที่หวังไว้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งแล้ว นายอูถิ่นจ่อได้เดินทางต่อไปยังอาคารทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเข้าพิธีรับมอบอำนาจจากรัฐบาลชุดเก่านำโดยเต็งเส่ง โดยมีผู้นำหลายฝ่ายของพม่า เช่น พลเอกมิ้นอ่องหลาย ผู้บัญการทหารสูงสุดของพม่า รัฐบาลชุดเก่า รวมถึงคณะรัฐบาลพม่าชุดใหม่เข้าร่วมในพิธีด้วย
ทั้งนี้ หากไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เชื่อกันว่า นางอองซาน ซูจี จะขึ้นรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของพม่า แต่เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทำให้ทางพรรค NLD ตัดสินใจเลือกนายอูถิ่นจ่อ ทำหน้าที่แทนนางซูจี โดยนายอูถิ่นจ่อนั้น เป็นเพื่อนสมัยเรียนและเป็นที่ไว้วางใจของนางซูจีเป็นอย่างยิ่ง โดยเขาให้ความช่วยเหลือผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาโดยตลอดในช่วงที่เผชิญวิกฤติทางการเมืองและช่วงที่ถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านพัก หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ มีรายงานว่า ผู้นำหลายประเทศอย่างจีน สิงคโปร์ เวียตนาม รัสเซีย กัมพูชา อิตาลีเป็นต้น ได้ส่งสาสน์มาแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของพม่า
ที่มา Myanmar Times/Eleven Media Group/MI TV
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ Transborder News
