เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 นางทองสา มาเลิศ ชาวบ้านทุ่งบอน ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 เมษายนนี้ ตนและตัวแทนชาวบ้านในตำบลหนองกินเพล และตำบลบุ่งหวายซึ่งถูกอดีตนักการเมืองโกงที่ดินโดยนำไปออกเอกสารสิทธิ์จะรวมตัวกันชุมนุมอีกครั้งหน้าสำนักงานบังคับคดี จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเรียกร้องให้นายทุนที่ประกาศขายที่ดินของพวกตน ยกเลิกการประกาศขายที่ดิน เพราะนายทุนได้เอกสารสิทธิ์โดยมิชอบธรรม และเรียกร้องให้กรมบังคับคดีชะลอการดำเนินการทางธุรกรรม ใดๆที่เกี่ยวข้องกับที่ดินซึ่งเป็นข้อพิพาทกันระหว่างชาวบ้านกับนายทุน
“เราไม่มีสมบัติอะไรมากมาย แต่เราต้องจะรักษาแผ่นดินให้ลูกหลานได้ทำกิน จะตารางวาเดียวก็ไม่ยอมหรอก เขามาโกงฉัน ให้ฉันยอมได้ไง คือเราอยากให้ทางรัฐเขาตรวจสอบที่มาของเอกสารสิทธิ์สักนิดก่อนตัดสินใจเชื่อนายทุนแล้วทำธุรกรรม ทั้งการประกาศขาย ประกาศเช่า แล้วโอนกรรมสิทธิ์ เพราะชาวบ้านอย่างเราๆ เข้าไม่ถึงข้อมูล เราใช้ชีวิตทำนาไปวันๆ จู่ๆวันหนึ่งเข้าไปที่นาของตัวเองเจอป้ายประกาศขายที่ดินของเราซะงั้น ฉันจะประท้วงจนตัวตาย หรือไม่ก็จนกว่าจะได้ที่ดินคืนมา” นางทองสา กล่าว
ด้านนางหนูเดือน แก้วบัวขาว ชาวตำบลหนองกินเพล จังหวัดอุบลราธานี กล่าวว่า นอกจากที่ดินของนางทอองสาแล้ว ยังมีชาวบ้านออีกหลายรายต้องต่อสู้เพื่อที่ดินของตนเอง โดยในส่วนของตนและสามีที่ศาลปกครองตัดสินให้ชนะคดีและสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์นั้น ขณะนี้สำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งมาว่าได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินแล้ว ซึ่งหากสำนักงานที่ดินในพื้นที่ไม่ดำเนินการ ไม่นานอาจจะต้องไปทวงถามอีกครั้งและอาจจะต้องร้องเรียนสำนักนายกฯอีก หากเรื่องเงียบ
“ที่จริงเรื่องที่ดินที่อุบลฯ นี้รอแค่ทางราชการจัดการเท่านั้น ชาวบ้านทำทุกอย่างที่ทำได้เต็มที่แล้ว ตั้งใจไว้ว่าถ้ากรณีของเราถูกเพิกถอน ชาวบ้านรายอื่นจะมีกำลังใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น มันนานกินไป นานจนผิดปกติ คือถ้ากรมที่ดินไม่จริงจังเรื่องนี้เชื่อว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา” นางหนูเดือน กล่าว
อนึ่งที่มาของข้อพิพาทที่ดินที่เกิดขึ้นในตำบลหนองกินเพลซึ่งเกิดระหว่างนายทุนกับชาวบ้านใน 2 ตำบล เกิดขึ้นเมื่อราวปี 2511 โดยขณะนั้นมีผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รายหนึ่งรับปากชาวบ้านว่าหากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. ก็จะผลักดินที่ดินของชาวบ้านทั้งตำบลซึ่งขณะนั้นมีแค่ใบจับจองให้กลายเป็นโฉนด ต่อมาเมื่อได้เป็นส.ส.เขาจึงมาให้ชาวบ้านมาร่วมลงชื่อโดยผ่านผู้ใหญ่บ้านของแต่ละหมู่บ้าน แต่ท้ายที่สุดกลายเป็นว่าโฉนดที่ออกเป็นชื่อภรรยาและญาติของส.ส.รายนั้น นอกจากนี้ยังมีที่ดินของชาวบ้านที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อพลอยติดร่างแหไปด้วย โดยที่ดินบางส่วนถูกขายและเปลี่ยนมือหลายทอด ขณะเดียวกันได้มีการฟ้องขับไล่ชาวบ้านให้ออกจากที่ดิน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นางหนูเดือน แก้วบัวขาว ชาวบ้านหนองกินเพลได้ฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่นายทุนแอบอ้างเหนือที่ดิน ซึ่งในที่สุดศาลตัดสินให้นางหนูเดือนชนะคดีและให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แต่จนบัดนี้กรมที่ดินยังคงเพิกเฉย
——-