เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายสอน โพธิ์จันทร์ ชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลค้อเขียว อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีทหารพร้อมผู้ใหญ่บ้านรวมจำนวน 3 คน เข้ามายังบ้านของตน เพื่อถามหาและขอพบนางสาวจันทร โพธิ์จันทร์ ลูกสาวของตน อย่างไรก็ตามขณะนั้นลูกสาวไม่อยู่ แต่ทหารก็พยายามจะเจอตัวให้ได้ โดยพยายามไถ่ถามและขอเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งตนตอบไปว่าไม่มีเบอร์ เพราะไม่เคยใช้โทรศัพท์
“ผมรู้สึกกังวลใจมาก เพราะเจ้าหน้าที่พยายามจะเจอตัวลูกสาวให้ได้ โดยใช้เวลารอลูกสาวอยู่ที่บ้านประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง กว่าจะเดินทางกลับไป ผมเข้าใจว่าการที่ทหารบุกเข้ามาในบ้าน เหตุเพราะลูกสาวทำงานช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกรณีความเดือดร้อนเรื่องป่าไม้และที่ดินทำกิน โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตัดสวนยางชาวบ้าน แม้ผมจะเป็นห่วงลูกสาว เกรงจะถูกทำร้าย หรือถูกจับกุม แต่ส่วนลึกๆรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาว ที่ได้ทำงานช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะกับชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถือเป็นสิทธิความชอบธรรมที่ลูกสาวตนที่ได้อุทิศเพื่อสังคมที่ดีงาม”นายสอน กล่าว
ด้านนางสาวจันทร โพธิ์จันทร์ กล่าวว่า ตนกลับมาถึงบ้านเมื่อประมาณ 19.00 น. ภายหลังจากเดินทางไปติดตามเรื่องที่ได้ยื่นหนังสือต่อหน่วยงานภาครัฐ กรณีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และทหาร เข้าไปตัดยางของชาวบ้านจัดระเบียบ ตำบลหลุบเลา จังหวัดสกลนคร โดยเมื่อกลับมาถึงบ้านพ่อบอกว่าทหารเข้ามาที่บ้าน
“พ่ออายุมากแล้ว อยู่บ้านกับหลานเพียงลำพัง พ่อบอกว่าทหารได้ถามถึงดิฉันและพยายามจะให้คนไปตามหาเพื่อให้มาพบให้ได้ รวมทั้งได้ถ่ายรูปพ่อ และถ่ายบริเวณบ้านทั้งหมด เรารู้สึกกังวลมาก การที่ทหารเข้ามาถึงในบ้าน เท่ากับเป็นการข่มขู่ คุกคาม”นางสาวจันทร กล่าว
นางสาวจันทรกล่าวว่า ไม่รู้สึกเป็นห่วงตัวเองมากเท่าไร เพราะเข้าใจในสิ่งที่ทำงานอยู่ เพียงแต่เป็นห่วงพ่อเท่านั้น เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาหาที่บ้านอีกแน่นอน และพ่อก็คงกังวล และเพิ่มความรู้สึกที่เป็นห่วงตนมากขึ้น ซึ่งจะผลต่อสุขภาพของพ่อซึ่งไม่ค่อยสบาย และเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาอีก