
เจ้าจายทู เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน-เหนือ SSPP/SSA (Shan State Progress Party/Shan State Army) ได้ออกมาเปิดเผยว่า กองทัพพม่าได้สั่งการให้ทางกลุ่มถอนกำลังและฐานที่มั่นออกจากเมืองต้างยาน ทางเหนือของรัฐฉาน ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน หรือแม่น้ำคง ในภาษาไทใหญ่ โดยคาดว่า การสั่งให้ทหารไทใหญ่ถอนออกจากพื้นที่ เพื่อต้องการยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางทหาร
ทั้งนี้ เจ้าจายทู เปิดเผยว่า คำสั่งให้ถอนทหารมาจากผู้บัญชาการทหารกองทัพภูมิภาคตะออกเฉียงเหนือเมืองล่าเสี้ยว เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา โดยขีดเส้นตายให้ SSPP/SSA ถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ภายในวันที่ 22 เมษายนนี้ และทางกลุ่มจะตัดสินใจถอนหรือไม่ ทางกองบัญชาการสูงสุดของกลุ่มจะเป็นผู้ตัดสินใจ โดยระบุเพิ่มเติมว่า หากถอนออกจากพื้นที่นี้อีก ทาง SSPP/SSA ก็ไม่เหลือพื้นที่เคลื่อนไหวแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็ได้สละพื้นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางทหารให้กับทางทหารพม่าไปหลายแห่งแล้ว
เจ้าจายทูยังเปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าว ทาง SSPP/SSA ได้ปักหลักอยู่มานาน 34 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ดอยเจ้และดอยลาง เป็นเขตยุทธศาสตร์สำคัญทางทหาร ซึ่งหากทางกองทัพพม่าสามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวได้ ก็จะง่ายต่อการเข้าไปรบในเขตปกครองของว้า UWSA อย่างเช่นที่เมืองป๋างซาง ซึ่งทางกองทัพว้า เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ทางทหารพม่าต้องการเข้าไปรบในเขตว้านั้น ทางว้าทราบดีมาโดยตลอดและเชื่อว่า ทางว้าเองได้ระมัดระวังและเตรียมพร้อมไว้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เหตุสู้รบระหว่างทหารพม่าและทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ที่เมืองสู้และเมืองหนองเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นภายในมากกว่า 10,000 คน โดยจนถึงขณะนี้ แม้ส่วนใหญ่จะสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แต่มีรายงานว่า ชาวปะหล่องและชาวลีซู ที่อาศัยอยู่ตามภูเขาสูงในพื้นที่ ยังไม่กล้ากลับบ้านของตัวเอง เนื่องจากมีทหารพม่ามาปักหลักอยู่ตามหมู่บ้าน
อีกด้านหนึ่ง ทางสภาสหพันธรัฐแห่งชาติสหภาพ หรือ UNFC (United Nationalities Federal Council) ประกอบไปด้วยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 9 กลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงแห่งชาติกับรัฐบาลพม่า ได้จัดประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 19 – 21 เมษายน 2559 นี้ โดยหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาหารือกันครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการวางแผนเตรียมพร้อมและแต่งตั้งตัวแทนที่จะหารือทางการเมืองกับรัฐบาล NLD ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ รวมไปถึงเรื่องการยุติความขัดแย้งระหว่างทหารปะหล่อง TNLA และทหารไทใหญ่ RCSS/SSA โดยทาง UNFC ได้แสดงความยินดีกับท่าทีของนางอองซาน ซูจี ที่ให้สัญญาว่า จะนำพาประเทศเข้าสู่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยสหพันธรัฐอย่างแท้จริง โดยทางชาติพันธุ์มองว่า เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเจรจาสันติภาพในอนาคต
ที่มา TV Tai/DVB/Irrawaddy
แปลโดย สำนักข่าวชายขอบ