
หลังเกิดเหตุกรณีพระสงฆ์รูปหนึ่งขับไล่พ่อค้าหาบเร่ชาวมุสลิมออกจากเขตบริเวณที่ใกล้กับเจดีย์ชเวดากอง เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และถูกแชร์ในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่ชาวพม่า ล่าสุด มีการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อเตรียมยื่นต่อรัฐมนตรีประจำเขตย่างกุ้งคนใหม่จากพรรค NLD ให้ดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่ก่อเหตุแล้ว ขณะที่หลายฝ่ายได้ออกมาแสดงความกังวลว่า หากไม่มีการดำเนินการ เกรงจะเป็นการลุกลามไปสู่ความขัดแย้งระหว่างศาสนาในช่วงที่ประเทศกำลังเปลี่ยนผ่าน
มีรายงานว่า การล่ารายชื่อประชาชนนำโดยชายชาวพม่าชื่อ นายเท็ตส่วยวิน โดยมีประชาชนร่วมลงรายชื่อกว่า 2,500 คนแล้วตั้งแต่วันแรกที่เริ่มมีการรณรงค์ โดยนายเท็ตส่วยวินกล่าวเรียกร้องให้นายเพียวมิ้นเต่ง รัฐมนตรีประจำเขตย่างกุ้งคนใหม่ เข้ามาดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่ก่อเหตุทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อพ่อค้าหาบเร่ชาวมุสลิมที่เข้ามาค้าขายอยู่ใกล้กับเจดีย์ชเวดากอง โดยระบุว่า พ่อค้าคนดังกล่าวถูกยึดสินค้าและถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ยังมีการเรียกเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบพ่อค้าคนดังกล่าวด้วย
นายเท็ตส่วยวิน กล่าวว่า พระสงฆ์ที่ก่อเหตุได้ทำผิดกฎหมายตามรัฐธรรมนูญข้อที่ 370 (a) ที่ระบุว่า ให้ประชาชนมีสิทธิในประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างอิสระ โดยการเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ก็เพราะไม่ต้องการให้เรื่องนี้บานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างศาสนาแ ละอาจจะส่งผลด้านลบกับประเทศในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย
ขณะที่พระสงฆ์ที่ก่อเหตุยอมรับว่า ได้ทำร้ายร่างกายพ่อค้าหาบเร่คนดังกล่าวจริง เนื่องจากชายคนดังกล่าวพยายามที่จะหลบหนี และระบุว่า การกระทำนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่ม “มะตะบะ” กลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรงชาวพม่าแต่อย่างใด โดยยังอ้างกับสื่อว่า ที่ทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้เจดีย์ชเวดากองถูกโจมตี โดยยกตัวอย่างการลอบวางระเบิด เป็นต้น ทางด้านนายต่าวทุต ทนายความของพรรค NLD ประจำเมืองบะฮาน เขตย่างกุ้ง เปิดเผยว่า ประเด็นนี้มีความสำคัญ โดยจะหยิบยกเรื่องนี้มารือและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นับตั้งแต่ปี 2555 หลังเกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนาในรัฐอาระกัน ทำให้ความสัมพันธุ์ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในประเทศย่ำแย่ลง โดยนักวิเคราะห์การเมืองหลายคนมองว่า หนึ่งในเรื่องที่ท้าทายและเป็นงานหนักสำหรับนางอองซาน ซูจี และรัฐบาลพรรค NLD ก็คือการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งทางศาสนา
ที่มา Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ