ในหลายพื้นที่ของประเทศพม่ายังคงเผชิญกับพายุฤดูร้อนและอุณหภูมิที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (22 เมษายน) ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรัฐฉาน รัฐชิน เขตสกาย เขตมัณฑะเลย์ และเขตมะกวย ที่เผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนมากที่สุด จนถึงขณะนี้ สื่อท้องถิ่นของพม่ารายงานว่า มีบ้านเรือนกว่า 15,000 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ในบางพื้นที่พบลูกเห็บมีขนาดเท่าลูกกอล์ฟตกใส่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และทำให้สัตว์เลี้ยงจำนวนมากตาย พายุฤดูร้อนในพม่ายังทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 13 ราย

นาง มะหว่าย วัย 35 ปี ชาวบ้านจากหมู่บ้าน เย ตะ เยาก์ เมืองเจ้าก์เส่ จากเขตมัณฑะเลย์เปิดเผยว่า เธอนอนไม่หลับมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว เมื่อเห็นเมฆก่อตัวกันบนท้องฟ้า ขณะที่เมื่อสอบถามกับชาวบ้านคนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่ต่างกัน “ตอนที่ลูกเห็บตกลงมา ครอบครัวของเราทั้ง 4 คน รวมถึงยายของฉันต้องเอาผ้าห่มคลุมตัวไว้ เพื่อป้องกันจากลูกเห็บ ฉันไม่เคยเห็นลูกเห็บเช่นนี้มาก่อนในชีวิต ตอนนั้นฉันคิดแต่เพียงว่า ฉันคงตายแน่ๆ” นางมะหว่าย กล่าว
หลังเกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนักและลูกเห็บตก มีรายงานว่า ที่หมู่บ้าน เย ตะ เยาก์ เพียงแห่งเดียวมีประชาชนเสียชีวิตจำนวน 6 ราย จากสาเหตุถูกน้ำป่าจากภูเขาพัดร่างเสียชีวิต ส่วนข้อมูลผู้เสียชีวิตจากทั่วประเทศอยู่ที่ 13 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 17 คน คาดว่าตัวเลขน่าจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน เย ตะ เย้าก์ นาน 45 นาที ส่งผลให้มีบ้านเรือน 179 หลัง ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางการพม่าได้ออกมาประเมินความเสียหายเบื้องต้นว่า พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีบ้านเรือนเสียหายแล้ว 15,000 หลังคาเรือน
ทางด้านสื่อท้องถิ่นอย่าง Global New Light of Myanmar รายงานว่า มีเจดีย์อายุเก่าแก่จำนวน 1,700 องค์ ได้รับความเสียหายทางภาคใต้ของรัฐฉาน นอกจากนี้มีรายงานพายุถล่มในเมืองมรัคอู รัฐอาระกัน และที่ค่ายผู้ลี้ภัยคะฉิ่น ในเมืองมานซี เมืองชิมวีและที่เมืองซาดอน รัฐคะฉิ่น ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่า ทางเหนือของประเทศจะยังคงเผชิญอากาศที่แปรปรวนต่อไปในรอบสัปดาห์นี้
ที่มา Global New Light of Myanmar/Myanmar Times/DVB/Irrawaddy
แปลโดย สำนักข่าวชายขอบ