เจ้าหน้าที่จากกองทัพ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดในรัฐอาระกัน ได้ร่วมกันทำงานวางมาตรการตรวจเข้มผู้ที่จะเดินทางไปยังรัฐอาระกัน โดยเฉพาะผ่านไปยังเมืองแอน เมืองมรัคอู เมืองชิตต่วยและเมืองโพนนัคยุ้น มีรายงานว่า ประชาชนที่เดินทางไปพร้อมกับกระเป๋าถูกตรวจค้นอย่างละเอียด การตรวจค้นเข้มงวดขึ้นตามด่านต่างๆ สืบเนื่องมาจากมีรายงานออกมาว่า นักรบกะเหรี่ยงโดยเฉพาะกลุ่มที่แยกตัวออกมาจาก DKBA ได้เดินทางเข้ารัฐอาระกันเพื่อมาช่วยทหารอาระกัน (Arakan Army – AA) รบกับทหารพม่า ซึ่งกองทัพพม่าประกาศจะกวาดล้างทหารอาระกันให้หมดไปจากพื้นที่
มีรายงานว่า ทางการพม่าได้ตรวจค้นรถที่สัญจรไปมา เนื่องจากหวั่นว่า ทางทหาร DKBA จะนำอาวุธมาก่อเหตุในรัฐอาระกัน ด้านสื่อพม่าอย่างสำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า ทางนักรบกะเหรี่ยง หรือที่เรียกตัวเองว่า นักรบอิสระ ซึ่งประกอบไปด้วยทหารที่แยกตัวออกมาจาก DKBA และทหารจากกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆได้เดินทางถึงรัฐอาระกันจริงตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อมาช่วยเหลือทหารอาระกันรบกับทหารพม่า
พันเอก ซอซันอ่อง ที่เดินทางไปพร้อมกับนักรบเดินทางไปยังรัฐอาระกันเปิดเผยว่า ทั้งหมดได้เดินทางทั้งทางบกทางเรือและการเดินเท้าผ่านป่าเพื่อเข้าสู่รัฐอาระกัน โดยการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก พันเอก ซอซันอ่องยังเปิดเผยอีกว่า นักรบที่เดินทางมายังรัฐอาระกันมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการรบในรัฐกะเหรี่ยงมาก่อน โดยยังกล่าวว่า การรวมกันของหลายกลุ่มติดอาวุธเพื่อรบกับกองทัพพม่าถือเป็นแผนกลยุทธ์ที่สำคัญและมีประสิทธิภาพ
“เราทั้งหมดควรที่จะมีโอกาสได้สันติภาพเหมือนกัน รัฐกะเหรี่ยงมีสันติภาพแต่รัฐอาระกันกลับไม่มี สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เราควรที่จะมีสันติภาพพร้อมกัน หรือสันติภาพแห่งชาติ กองทัพอาระกันและกะเหรี่ยงเป็นสหายกล้าตายในการรบ เรามีมิตรภาพที่ยาวนานในการปฏิวัติต่อต้านระบอบการปกครองของกองทัพพม่า พวกเขาเคยช่วยกะเหรี่ยงมาก่อน ดังนั้นเราจึงกลับมาช่วยพวกเขาในตอนนี้” พันเอก ซอซันอ่องกล่าว
อย่างไรก็ตาม พันเอซอซันอ่องไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของนักรบกะเหรี่ยงที่เดินทางมายังรัฐอาระกัน แต่เรียกร้องให้คนเข้าร่วมกับกองทัพของเขา หากต้องการเห็นระบอบการปกครองแบบสหพันธรัฐ นอกจากนี้พันเอก ซอซันอ่อง ยังกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เมื่อเร็วๆ นี้ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้ออกมากล่าวว่าต้องการที่จะประชุมกับกลุ่มชาติพันธุ์ดำเนินรอยตามแนวทางสัญญาป๋างโหลงในอนาคต
การทำสงครามกันระหว่างกองทัพอาระกันและทหารพม่ารอบใหม่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา กองทัพอาระกันนั้นเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 โดยได้รับความช่วยเหลือและเป็นพันธมิตรอันดีกับกองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ทางกองทัพอาระกันนั้นมีกองบัญชาการใหญ่ชั่วคราวอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมของ KIA ในรัฐคะฉิ่น และได้กลับมาเคลื่อนไหวในรัฐอาระกันเมื่อไม่กี่ปีมานี้ คาดว่า มีกำลังพลราว 1,500 นาย ซึ่งทางกองทัพอาระกัน AA กองกำลังโกก้าง (MNDAA) และปะหล่อง TNLA เป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่มที่ไม่ถูกยอมรับและไม่ได้รับเชิฐจากรัฐบาลพม่าให้เข้าร่วมในกระบวนการสันติภาพในพม่า ในยุคของรัฐบาลเต็งเส่ง
ที่มา Eleven Media Group/Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
