เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 นางสุภาพ คำแหล้ ภรรยานายเด่น คำแหล้ แกนนำชุมชนโคกยาว ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ แกนนำสิทธิในที่ดินทำกิน ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2559 พร้อมชาวบ้านเครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม)และหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รองผอ.สถาบันนิติวิทยาสตร์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน
โดยนางสุภาพ กล่าวว่า มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในการติดตามค้นหาตัวนายเด่นอย่างเร่งด่วน เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้านได้พบหลักฐานโครงกระดูกปริศนา ทำให้เชื่อได้ว่า การหายตัวไปของนายเด่นเป็นการถูกอุ้มหายอย่างแน่นอน และสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป จึงอยากให้ กสม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐออกติดตามอย่างเร่งด่วน เพื่อสืบสวนสอบสวนและหาความเป็นธรรมให้กับครอบครัวนายเด่น
ด้านนางอังคณา กล่าวว่า กสม.จะรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบ และจะเชิญที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ สภ.ห้วยยาง อำเภอคอนสาร เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี และเชิญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาสอบถามผลการตรวจสอบเถ้ากระดูกว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มาสอบถามว่าสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ และจะแจ้งให้ครอบครัวทราบ
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ช่วงนี้มีเรื่องอุ้มหายและบุคคลสูญหายจำนวนมาก กรณีนายเด่น ก็เข้าข่ายถูกอุ้มหาย เนื่องจากหายไปโดยไม่สมัครใจ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยไม่มีกฎหมายเรื่องอุ้มหาย ทำให้ยากที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่ง กสม.กำลังผลักดันให้รัฐบาลไทยออกกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับให้สูญหายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินคดีเรื่องคนหายอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถใช้คุ้มครองประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญและนิ่งเฉยกับเรื่องนี้
ทั้งนี้หลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้กำลังใจชาวบ้าน ซึ่งหากชาวบ้านกังวลเรื่องความปลอดภัย สามารถขอให้มีการคุ้มครองพยานได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากยื่นหนังสือถึง กสม.เสร็จ นางสุภาพ ได้นำหลักฐานเป็นกล่องบรรจุเถ้ากระดูก ที่พบในพื้นที่หลังสำนักงานหน่วยพิทักษ์ป่าหนองไรไก่ พร้อมมีดโกน และหวีที่มีขนและเส้นผมของนายเด่นติดอยู่ มอบให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบว่า เป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของนายเด่นไว้ตรวจสอบ โดยมี พ.ต.ท.สุพจน์ นาคเงินทอง ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นผู้รับมอบ
พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า กระดูกที่ญาตินำมามอบให้จะสามารถตรวจดีเอ็นเอได้หรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ แต่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก็จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นกระดูกมนุษย์ หรือ กระดูกสัตว์ และหลังจากนี้จะส่งทีมลงพื้นที่เก็บหลักฐาน โดยจะประสานกับตำรวจในพื้นที่และประสานญาติ เพื่อกำหนดจุดในการลงพื้นที่ พร้อมกันนี้จะให้ทีมงานตรวจดีเอ็นเอพี่สาวและน้องสาวของนายเด่นที่จ.หนองบัวลำภูเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ตรวจจากนายเด่น
จากนั้น ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน เข้ายื่นหนังสือที่ดีเอสไอ เพื่อให้รับเรื่องการหายตัวไปของนายเด่นเป็นคดีพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้คดีอุ้มหายเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนของดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง และจะเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอภาคติดตามเรื่องนี้ต่อไป
ด้านนายปกป้อง เลาวัณย์ศิริ เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวภายหลังการรับเรื่องร้องเรียนว่า จะส่งเรื่องนี้ให้สำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ รับทราบ รวมทั้งรายงานถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งสามารถทำหนังสือแสดงความห่วงใยมายังรัฐบาลไทยได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติได้ติดตามและให้ความสำคัญกับกรณีนี้อยู่ จากนั้นนางสุภาพ พร้อมเคริอข่าย เข้ายื่นหนังสือที่กองปราบปราม ให้ช่วยติดตามตรวจสอบการหายตัวไปของนายเด่นอีกทาง
ด้าน นางอรนุช ผลภิญโญ ผู้ประสานงานเครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน กล่าวว่า หลังจากนี้จะยังอยู่ค้นหานายเด่นต่อไป เพื่อสืบค้นหาความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่ง นายเด่นถือเป็นคนสำคัญของเครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน และจะจัดเวทีรำลึกถึงการหายไปของนายเด่น
////////