
วันนี้ 12 พฤษภาคม พลโทเจ้ายอดศึก ผู้นำสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (ใต้) ได้ออกแถลงการณ์ถึงทหารในกองทัพและประชาชนชาวไทใหญ่เกี่ยวกับปัญหาสงครามความขัดแย้งกับทหารปะหล่อง TNLA ในหลายพื้นที่ทางเหนือของรัฐฉาน ระบุผิดหวังที่อีกฝ่ายไม่ต้องการร่วมมือแก้ปัญหาด้วยสันติ และแสดงความเสียใจที่ประชาชนทั้งชาวปะหล่องและไทใหญ่ต้องได้รับความเดือดร้อนจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เรียกร้องประชาชนทบทวนรากเหง้าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด
ในแถลงการณ์ของเจ้ายอดศึกระบุว่า ชาติพันธุ์ไทใหญ่และปะหล่องอยู่ร่วมกันมายาวนาน ไม่ว่าจะประสบเหตุร้ายหรือดีสามารถพูดคุยตกลงกันได้มาโดยตลอด ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ถึงขั้นมีการรบราฆ่าฟันกัน เผาบ้านเรือน ระบุหากผู้นำปะหล่อง TNLA เป็นคนเชื้อชาติปะหล่องอย่างแท้จริง จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนปะหล่องด้วยกันเอง เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางเจ้ายอดศึกตั้งข้อสังเกตว่าทาง TNLA อาจถูกยุยงปลูกปั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์จากคนบางกลุ่ม
“ผมลุกขึ้นมาปฏิวัติต่อสู้ ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะรบกับกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยกันในรัฐฉาน” นอกจากนี้ เจ้ายอดศึกได้ระบุถึงเหตุการณ์ที่กองทัพว้าร่วมกับกองทัพพม่ารบทหารไทใหญ่เมื่อปี 2548 ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่นเดียวกัน เหตุการณ์ความขัดแย้งกับกลุ่มปะหล่อง ที่ผ่านมา ทาง RCSS/SSA เชื่อมั่นมาตลอดว่า ทางปะหล่อง TNLA จะหันหน้ามาเจรจาด้วยสันติวิธีหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่กลับกลายเป็นว่า ทาง TNLA กลับโจมตีทหารไทใหญ่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ จึงทำให้การหันหน้าเจรจานั้นล้มเหลว
ผู้นำ RCSS/SSA ยังกล่าวว่า คนในรัฐฉานบอบช้ำมายาวนานจากศึกสงครามนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเห็นใจสงสารประชาชน โดยเหตุการณ์สงครามระหว่างชาติพันธุ์ด้วยกัน และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ยิ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้น และย้ำว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ท้ายสุดเจ้ายอดศึกกล่าวว่า ขณะนี้กองทัพ RCSS/SSA ยังขาดกำลังพลอยู่มาก แต่พร้อมในการฝึกทหารและด้านอาวุธ ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนชาวไทใหญ่เข้ามาร่วมกับกองทัพ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถปกป้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยย้ำถึงเวลาที่จะต้องพึ่งพาความร่วมมือและความสามัคคีจากประชาชน
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างทหารปะหล่อง TNLA และทหารไทใหญ่ RCSS/SSA ได้ส่อเค้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เหตุความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อหลายเดือนก่อนก็ทำให้มีผู้ลี้ภัยหลายพันคนต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน ขณะที่สถานการณ์ผู้ลี้ภัยล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีชาวบ้านจำนวน 1,037 คน หนีภัยสงครามไปอยู่ในตัวเมืองจ้อกเม อีก 596 คน ลี้ภัยไปอยู่ที่ตัวเมืองสี่ป้อ
มีรายงานว่า สถานการณ์ระหว่างทหารไทใหญ่และทหารปะหล่องยังคงตึงเครียดอยู่มาก ด้านทหารปะหล่อง TNLA และทหารคะฉิ่น KIA ซึ่งเป็นพันธมิตร ถูกกล่าวหาว่าได้เผาหมู่บ้านชาวไทใหญ่ทั้งหมู่บ้าน ในเขตเมืองน้ำคำ อย่างไรก็ตามทาง TNLA ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ขณะที่ประชาชนชาวปะหล่องรายหนึ่งเปิดเผยว่า ต้องการให้สงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายยุติลงโดยเร็ว
ที่มา สำนักข่าวไทใหญ่ Tai Freedom/Myanmar Times
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ