พลเอก มิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงเนปีดอว์ เปิดใจอาจอยู่ในตำแหน่งอีก 4 ปีกว่า แม้อายุเลย 60 ปีที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการ โดยย้ำว่า หากกระบวนการสันติภาพในประเทศประสบความสำเร็จอาจพิจารณาที่จะเกษียน โดยกองทัพจะร่วมมือกับรัฐบาลพลเรือน NLD

พลเอก มิ้นอ่องหล่ายกล่าวว่า การจัดแถลงข่าวครั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ให้สื่อมวลชนได้ตั้งคำถามกับผู้นำประเทศ โดยพลเอกมิ้นอ่องหล่ายเปิดเผยว่า การตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ทหารระดับล่างอาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับการตั้งคำถามของสื่อมวลชนทั้งหมด ดังนั้นตนจึงต้องการตอบคำถามกับสื่อมวลชนโดยตรง
ทั้งนี้ พลเอก มิ้นอ่องหล่ายเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เขาอาจจะพิจารณาเกษียณราชการในปี 2563 หากกระบวนการสันติภาพในประเทศบรรลุและประสบความสำเร็จ โดยกล่าวให้คำมั่นสัญญาว่า จะสร้างสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธทุกกลุ่มภายใน 5 ปีนี้ ขณะที่มีผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพจะสละที่นั่งในสภา ซึ่งมีอยู่ 25 % หรือไม่ หากกระบวนการสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่มีอยู่ในประเทศประสบความสำเร็จ ซึ่งทางพลเอก มิ้นอ่องหล่ายกล่าวเพียงว่า หากทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีก็จะมีคำตอบในเรื่องนี้ และจะต้องเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ
นอกจากนี้สื่อพม่าได้สอบถามถึงกรณีเกี่ยวกับการใช้คำเรียกชื่อ “โรฮิงญา” ที่กลายเป็นประเด็นร้อนและถกเถียงกันไปทั่วทั้งในต่างประเทศ และภายในสื่อพม่า รวมไปถึงในวงการทูตในพม่า หรือแม้แต่ในรัฐบาลพรรค NLD เอง เกี่ยว กับเรื่องนี้ ทางพลเอก มิ้นอ่องหล่ายตอบชัดเจนเหมือนทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มี “โรฮิงญา” ในพม่า
พลเอก มิ้นอ่องหล่ายยังกล่าวว่า ทางกองทัพได้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้รัฐบาล NLD ที่มาจากการเลือกตั้ง ย้ำทางกองทัพได้รายงานเรื่องสำคัญต่อประธานาธิบดีอูถิ่นจ่อ โดยเป็นการตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นความตึงเครียดระหว่างกองทัพและรัฐบาล NLD ที่มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆ พลเอก มิ้นอ่องหล่ายยังกล่าวว่า กองทัพกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลพลเรือน NLD
ที่มา Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ