Search

ทางการจีนผลักดันผู้ลี้ภัยโกก้างกลับพม่า พบมีการใช้กำลังไล่รื้อทำลายที่พักพิงของผู้ลี้ภัย

ภาพโดย Ta’ang Youth & Student Organization
ภาพโดย Ta’ang Youth & Student Organization

มีรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ชายแดนจีนได้ออกคำสั่งให้ผู้ลี้ภัยชาวโกก้าง ที่อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาอาศัยตามชายแดนจีน – พม่า ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2558 กลับไปฝั่งพม่า โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการจีนได้ทำลายที่พักพิงชั่วคราวจำนวน 40 – 50 หลังที่เป็นของผู้ลี้ภัย โดยจีนจะไม่ยอมให้มีการตั้งค่ายผู้ลี้ภัยตามชายแดนอีกต่อไป

“ก่อนที่จะพวกเขาจะทำลายบ้าน พวกเขามาถ่ายรูปและบอกให้ผู้ลี้ภัยออกจากพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการจับกุมผู้ลี้ภัยและส่งกลับพม่า ผู้ลี้ภัยโกก้างไม่สามารถพูดภาษาพม่าได้ และคนเหล่านี้ก็กลัวที่จะถูกจับกุมเมื่อกลับไปยังพม่า” นายจายหลาว เจ้าหน้าที่ทหารของกองกำลังโกก้าง (MNDAA)เปิดเผยกับสื่อ ทั้งนี้ ชาวโกก้างใช้ภาษาจีนแมนดารินสื่อสารกันในพื้นที่ตั้งแต่ในยุคศตวรรษที่ 18

เหตุสงครามระหว่างกองกำลังโกก้าง MNDAA และกองทัพพม่า เมื่อช่วงต้นปี 2558 ทำให้มีผู้ลี้ภัยชาวโกก้างราว 100,000 คน อพยพหนีตายเข้าไปยังฝั่งจีน ซึ่งมีชายแดนติดกัน ขณะที่มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่(Shan Human Rights Foundation)ได้ออกแถลงการณ์เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังมีผู้ลี้ภัยโกก้างอีก 20,000 คนที่ยังอาศัยอยู่ตามเพิงชั่วคราวที่สร้างขึ้นมา ในมณฑลยูนนาน ทางใต้ของจีน

“ผู้ลี้ภัยไม่มีอาหาร ไม่มีที่พัก และหน้าฝนกำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ คนเหล่านี้จำเป็นต้องออกจากในพื้นที่นี้ พวกเขาไม่มีที่ไป บางทีคนเหล่านี้อาจจะต้องหนีไปอยู่ในป่า” นายจายหลาวกล่าว ด้านนายอ่องจ่อมิ้น หนึ่งในผู้ลี้ภัยในยูนนานเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่จีนได้เข้ามาทำลายที่พักของผู้ลี้ภัยเมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยมีบ้านของผู้ลี้ภัยทั้งสิ้น 45 หลังที่ถูกทำลาย

“หลังเกิดเหตุ ผู้ลี้ภัยบางส่วนไปอาศัยอยู่ตามบ้านญาติ บางส่วนกลับพม่า แต่บางส่วนก็ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า เจ้าหน้าที่บอกพวกเราว่า พวกเขาไม่ต้องการที่จะข่มเหงเรา แต่ก็ได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบน หากเราสามารถกลับบ้านของเราที่ฝั่งพม่า เราก็อยากกลับ แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน ดังนั้นเรายังคงกลัวที่จะกลับไป” นายอ่องจ่อมิ้นกล่าวทิ้งท้าย

ระหว่างปี 2503 – 2532 พื้นที่นี้ถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ หลังพรรคคอมมิวนิสล่มสลาย ในปี 2532 โกก้างได้ทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า และตั้งพื้นที่ของตัวเองเป็นเขตโกก้างจึงกลายเป็นเขตปกครองพิเศษ และตั้งกองทัพขึ้นในชื่อ กองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยพม่า(MNDAA-Myanmar National Democratic Alliance Army)

เขตปกครองพิเศษโกก้างมีพื้นที่ครอบครองราว 2,200 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน ติดชายแดนจีนด้านมณฑลยูนาน มีเมืองเหล่ากายเป็นเมืองหลวง ภายใต้การนำ นายเผิงจาเซิง เคยมีกำลังพลราว 3000 นาย แต่สัญญาหยุดยิงระหว่างกองทัพพม่าและโกก้างถูกฉีกลงเมื่อปี 2552 และทหารโกก้างถูกขับไล่ออกจากเมือง และยังคงเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่เป็นระยะๆ ขณะที่มีรายงาน ทหารพม่าได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาชนในเขตโกก้างอย่างหนัก นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งกับทหารโกก้าง

ที่มา Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอ

On Key

Related Posts

ผวจ.เชียงรายยังไม่รู้เรื่องน้ำกกขุ่นข้น-เตรียมสั่งการทสจ.ตรวจคุณภาพน้ำ คนขับเรือเผยน้ำขุ่นต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยใหญ่ 6 เดือนก่อน ผู้เชี่ยวชาญชี้ดินโคลนจากเหมืองทองเสี่ยงสารปรอทปนเปื้อน ระบุการตรวจสอบต้องทำให้ถูกวิธี เก็บตัวอย่างตะกอนดิน-ปลานักล่า

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่Read More →

กรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำกก-ตรวจสารไซยาไนด์เหมืองทอง คาดรู้ผลภายใน 1 เดือน นักวิชาการเผยทหารว้าจับมือจีนแผ่อิทธิพลถึงชายแดนไทยใช้กลยุทธ์คุมต้นน้ำ-สร้างเหมืองกระทบไทย

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ปันสิน ผู้อRead More →

ผู้ตรวจการแผ่นดินหวั่นโครงการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นโขงส่งผลกระทบเขตแดนไทย แนะสร้างกลไกหารือร่วมกับภาคประชาชน กรมสนธิสัญญาอ้างยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ ภาคประชาชนจวก สนทช.งุบงิบข้อมูลจัดประชุมกรณีเขื่อนสานะคามแล้ว 4 ครั้ง

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมRead More →