เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีที่มีการขโมยลูกนกเงือกในป่าเขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี และหลายฝ่ายร่วมกันกันติดตามจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บาเจาะและสภ.ยี่งอได้ร่วมกันทลายแหล่งค้าสัตว์ป่าครั้งใหญ่เมื่อเย็นวันที่ 16 และพบลูกนกเงือกหัวแรดที่ถูกขโมยมาด้วย ว่าล่าสุดเช้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี เตรียมที่จะนำสัตว์ป่าของกลางทั้งหมด รวมถึงลูกนกเงือกหัวแรดไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จนกว่าการดำเนินคดีจะสิ้นสุด แต่นักวิจัยโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร้องขอเจ้าหน้าที่ให้ส่งมอบลูกนกเพื่อนำกลับคืนเข้าโพรง เพราะพ่อแม่นกเงือกยังคงวนเวียนและส่งเสียงเรียกหาลูกนกอยู่ หากปล่อยให้เวลาผ่านไปหลายวันจะทำให้พ่อแม่ทิ้งโพรงและไม่สามารถนำลูกนกคืนสู่ธรรมชาติได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็เข้าใจและมอบลูกนกให้ทีมวิจัยนำไปคืนโพรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายทีมนักวิจัยและชาวบ้านที่เป็นผู้ช่วยวิจัยเก็บข้อมูลครอบครัวนกเงือกโพรงที่ 29 พร้อมด้วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติบูโดฯ และนายอำเภอบาเจาะ ร่วมกันนำลูกนกเงือกไปปล่อยคืนโพรงเป็นที่เรียบร้อย และเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะหวังว่าพ่อแม่นกจะกลับมาหาลูกนกที่โพรงเหมือนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจนกระทั่งเวลา 18.00 น.พ่อแม่นกเงือกก็ยังไม่กลับมา แต่ยังมีความหวังเพราะได้ยินเสียงร้องของพ่อแม่นกในบริเวณดังกล่าว และในเช้าวันที่ 18 คณะนักวิจัยจะเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์อีกครั้ง เพราะปกติพ่อแม่นกจะมาป้อนอาหารให้ลูกนกตอนเช้า ส่วนในตอนกลางคืนทางอุทยานฯและอำเภอได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ตลอด

นายปรีดา เทียนส่งรัศมี เจ้าหน้าที่โครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือกฯ กล่าวว่า แม้ลูกนกจะเข้าโพรงไปแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ลูกนกจะสามารถปิดปากโพรงได้เองตามสัญชาติญาณ และพ่อแม่นกจะกลับมาป้อนอาหารลูกนกได้หรือไม่ แต่หากดูจากเหตุขโมยลูกนกเมื่อปีที่แล้ว พ่อแม่นกจะเฝ้ารังและร้องหาลูกนกอยู่ประมาณ 1 เดือน ดังนั้นเราก็จะต้องเฝ้าสังเกตในช่วง 1-2 วันนี้อย่างใกล้ชิด จึงจะรู้ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ป้อนอาหารให้ลูกนกแล้ว เพื่อให้มีแรงที่จะรอการกลับมาพร้อมหน้าของครอบครัวนกเงือก
//////