เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2559 นางรดา สะเทื้อน ชาวบ้านตำบลสระจระเข้ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบปัญหาที่ดินทำกิน เปิดเผยว่า ในวันที่ 5มิถุนายน 2559 นี้ ทางกลุ่มจะเดินทางไปส่งหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อร้องเรียนให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสในการประกาศเขตที่ดินสาธารณะประโยชน์หรือที่หลวงแปลงโคกหนองสะแกนอก และโคกหนองตะคองในพื้นที่ตำบลสระจระเข้ หลังจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สระจระเข้ ร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาด่านขุนทด ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตรังวัดเพื่อเตรียมออกหนังสือรับรอง กระทั่งมีผลให้ชาวบ้านถูกดำเนินคดีอาญาข้อหากรุกที่ดินของรัฐประมาณ 15 ราย บางส่วนถูกจำคุก บางส่วนถูกรอลงอาญา และมี 1 รายเสียชีวิตลงระหว่างการต่อสู้คดี
นางรดา กล่าวว่า ที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐพยายามรังวัดเป็นที่หลวงนั้น มีการทำกินมานาน5รุ่นแล้วแต่พอมาถึงปี 2557 พบว่ามีการทำรังวัดโดยพยายามไล่ชาวบ้านให้รื้อถอนบ้านและระงับการทำประโยชน์ในที่ดินซึ่งเดิมทีถือครองแบบ สค.1 ไม่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดหรือ นส.3 ทั้งนี้ในส่วนที่ดินของตนนั้น มีทั้งหมด33ไร่ ปู่จับจองมาตั้งแต่ปี 2451 ตนจึงถูกฟ้องร้องไล่ที่พร้อมกับชาวบ้านรายอื่น
“เรื่องนี้เราร้องเรียนนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เราเลยเตรียมยื่นหนังสือให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะพวกเราเดือดร้อนกันมาก แต่ภายหลังเราร้องเรียนบ่อยขึ้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติกลับเรียกพวกเราที่เดือดร้อนไปรายงานตัว และแจ้งว่าเราสร้างความไม่สงบในพื้นที่ คือเจตนาของเราถ้าจะให้เราใช้ประโยชน์ร่วมกันจริงๆ เราก็ไม่ได้มีปัญหาแต่เราแบ่งกันใช้ประโยชน์กันเป็นแปลงๆไป แต่นี่มันมีเรื่องแปลกหลายอย่าง เพราะตอนแรกไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีใครมายึด เราทำกินตั้งนานแบบสงบสุข แต่ระยะหลังมีนายทุน ทำเหมืองแร่โปแตช ซึ่งใกล้กับบ้านป้าเลย ป้าบอกตรงๆ ว่าป้ากลัวเขามายึดที่ทำกินของเราขายให้พวกนี้ เรายอมไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนต่อไปและถ้าเสร็จจากดีเอสไอแล้วเราจะไปยื่นกับกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไป ” นางรดา กล่าว
นางรดา กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีของตนและชาวบ้านรายอื่นนั้นอยู่ในช่วงรอคำพิพากษา หลังจากมีการฟ้องร้อง แต่มีชาวบ้านรายหนึ่งอยู่ระหว่างการจำคุก คือ นางบุญล้อม โครตทิพย์ รับโทษแทนมารดา ชื่อนางเรียง พวนขุนทด อายุ 94 ปี ซึ่งนางเรียงได้รับสารภาพต่อศาลและถูกสั่งให้รื้อถอนบ้านเรือนแล้ว ในขณะที่ลูกชายอีกคนของนางเรียง ชื่อนายขีด พวนขุนทด ได้เสียชีวิตลงตั้งแต่ปี 2558 ต่อมาเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ฟ้องดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่ดิน นางเรียงจึงยอมรับสารภาพและลงชื่อรับข้อกล่าวหา เนื่องจากกลัวว่าจะมีโทษหนัก แต่ลูกสาวขอทำหน้าที่แทนเพราะเห็นว่าแม่ไม่สบายและชรามากแล้ว
////////////////////////////