มีรายงานว่า รัฐบาลพม่าได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางออนไลน์ตั้งแต่เมื่อคืนวันพุธ (8 มิถุนายน) เกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลวางแผนที่จะรณรงค์ให้ลดการเคี้ยวหมากและการห้้ามบ้วนน้ำหมากตามสถานที่ราชการและตามสถานที่สาธารณะ โดยรัฐบาลยังวางแผนให้ความรู้กับประชาชนถึงโรคภัยที่มากับการเคี้ยวหมาก นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะบังคับใช้มาตรการห้ามขายหมากใกล้กับสถานที่ราชการ โรงเรียนและโรงพยาบาลอีกด้วย นับเป็นการเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาล NLD ขึ้นมาบริหารประเทศเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดโอกาสให้ประชนแสดงความคิดเห็น ชาวพม่าบางส่วนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่า ควรให้ความสำคัญเรื่องอื่นก่อน อย่างเช่นปัญหายาเสพติด แอลกอฮอล์ และการพนัน เนื่องจากเป็นอันตรายกับสุขภาพของประชน โดยเฉพาะกับคนหนุ่มสาว และสร้างปัญหาอาชญากรรม นอกจากนี้คนบางส่วนยังแสดงความคิดเห็นว่า หากมาตรการนี้ออกมาจะเป็นการตัดอาชีพของคนขายหมากซึ่งมีรายได้น้อยอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.ของเมื่อวันพฤหัสบดี พบว่า มีประชาชนจำนวน 2,284 คน จากทั้งหมด 4,804 คน หรือราว 47.4 % เห็นว่า ควรให้ความสำคัญแก้ปัญหาการพนัน ยาเสพติดและแอลกอฮอล์เท่า ๆ กับการแก้ปัญหาการเคี้ยวหมาก ขณะที่บางส่วนเห็นด้วยกับจุดประสงค์นโยบายของรัฐบาลแต่ไม่เห็นด้วยกับแผนดำเนินการ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเห็นด้วยกับแผนการของรัฐบาลทั้งหมด มีเพียง 120 คนที่ไม่เห็นด้วย
ทางด้านโฆษกของสำนักประธานาธิบดีพม่า นายซอว์ เท เปิดเผยว่า การเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นก็เพื่อให้ทราบถึงท่าทีของประชาชนต่อนโยบายของรัฐบาลว่าเป็นไปในด้านบวกหรือไม่ โดยจะเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อไปอีก 5 วัน ทั้งนี้นอกจากเปิดให้แสดงความคิดเห็นทางออนไลน์แล้ว รัฐบาลยังได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นในบางพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศด้วย นายซอว์เท ยังกล่าวว่า การออกนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลจำเป็นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตาม “เราจำเป็นต้องได้ปฏิกิริยาที่เป็นบวก จึงจะสามารถดำเนินการได้อย่างประสบความสำเร็จ” นายซอว์เท กล่าว
นายซอว์เท ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ถูกวิจารณ์ว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญในเรื่องอื่นๆอย่างปัญหายาเสพติดและแอลกอฮอล์ “รัฐบาลนั้นทำงานเพื่อต่อต้านยาเสพติด ยาผิดกฏหมายและอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอนามัย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีการสำรวจความคิดเห็น เพราะประชาชนมีความเห็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว” นายซอว์เท กล่าว
ทั้งนี้ ตามเมืองใหญ่ ๆ ของพม่า ปัญหายาเสพติดและแอลกอฮอล์เป็นปัญหาที่สร้างกังวลใจให้กับประชาชน เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศสามารถยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในย่างกุ้งสามารถยึดยาบ้าได้มากกว่า 260,00 แสนเม็ด มูลค่า 1.3 พันล้านจั้ต (ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งยาบ้าจำนวนดังกล่าวถูกทิ้งไว้ในเมืองมิงกลาดง เขตย่างกุ้ง
ที่มา Irrawaddy
และและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
