Search

วิจารณ์ยับ “วิกรม กรมดิษฐ์”โพสต์ภาพตัวเองมีนกเงือกอยู่ด้านหลัง ตั้งคำถามถึงใบอนุญาตและการครองครองสัตว์ป่าคุ้มครอง เจ้าตัวแจงเป็นนกของน้องชายพบ บินไม่ได้ที่บ้านเขาใหญ่ รองประธานมูลนิธิสืบวอน บก.ปทส.ตรวจสอบด่วน

ขอบคุณภาพจาก คนอนุรักษ์
ขอบคุณภาพจาก คนอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ได้เกิดกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ระหว่างกลุ่มนักอนุรักษ์ และแฟนคลับของนายวิกรม กรมดิษฐ์ ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้เพจเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ได้โพสต์ภาพตนเองที่มีนกเงือกสีน้ำตาลอยู่ด้านหลัง ต่อมาได้เกิดการตั้งคำถามถึงการเอาสัตว์ป่ามาไว้ที่บ้าน

เพจเฟซบุ๊กคนอนุรักษ์ โพสต์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนระบุว่า “หลายวันก่อน เพจ Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ได้โพสต์ภาพคุณวิกรม กรมดิษฐ์ กับนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและสอบถามว่าคุณวิกรม ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหายากนี้ได้อย่างไร

“ต่อมาทางเพจได้ลบภาพนี้ออกไป แต่ก็ไม่มีการชี้แจงหรือแสดงหลักฐานการครอบครองให้คนได้หายสงสัย
ซึ่งคุณวิกรม อาจครอบครองโดยถูกกฎหมายก็ได้….แต่ยังไม่แสดงหลักฐานให้สาธารณะชนเห็นเท่านั้น

“การเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก สวยงาม กลายเป็นสิ่งแสดงรสนิยมของคนบางกลุ่ม หลายกรณีพบว่าการได้มาของสัตว์ป่าเหล่านี้ไม่ชัดเจน และหมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย ขณะที่หน่วยงานราชการก็เกรงใจที่จะทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง บางคนก็ว่าดีกว่าตกอยู่ในมือของคนไม่รักสัตว์อยู่กับคนรวยๆ จะมีได้มีอาหารกิน มีที่อยู่ดีๆ หรือดีกว่าอยู่ในป่าที่ไม่ปลอดภัยอาจถูกล่าอยู่ไม่ได้ สู้เอาเลี้ยงไว้แบบนี้ดีกว่าไม่สูญพันธุ์

“โดยหารู้ไม่ว่า ค่านิยมแบบนี้แหละที่ทำให้เกิดขบวนการล่าสัตว์ป่าหายาก สวยงามเพื่อมาขายให้กับคนที่มีค่านิยมแบบนี้ ยิ่งคนที่มีค่านิยมแบบนี้มีฐานะ ก็ยิ่งทำให้สัตว์ป่ามีราคาแพงขึ้นและทำให้สัตว์ป่าถูกล่ามากยิ่งขึ้น

“จึงขอบันทึกภาพนี้ไว้ครับ ถ้ามีคำชี้แจงหรือหลักฐานเพิ่มเติมก็จะนำมาโพสต์ต่อไป” เพจเฟสบุ๊กคนอนุรักษ์ ระบุ

ขณะที่นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ รองประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้แชร์ภาพดังกล่าวพร้อมโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนโดยระบุว่า “ใคร่วิงวอน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบ และหากมีความผิด ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีการยกเว้นด้วยครับ”

กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา(13 มิถุนายน) นายวิกรมโพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ระบุว่า “ช่วงเดือนที่ผ่านมาผมเดินทางไปประเทศจีนและพม่าบ่อยมาก เพิ่งกลับจากพม่าเมื่อคืนนี้เอง กะว่ามีเวลาจะมาตอบเรื่องนกเพราะเห็นมีผู้คนสนใจเพิ่มขึ้นมีทั้งต่อว่าและช่วยผมแก้ต่างมากมาย ขอขอบคุณทุกคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ แสดงว่าสังคมเราตื่นตัวต่อความถูกต้องของกฎหมายและสังคมโดยไม่มีข้อยกเว้น

“ผมขอชี้แจงว่านกที่อยู่ในภาพนั้นเป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดูอยู่ เนื่องจากบ้านที่น้องอยู่ติดกับอุทยานเขาใหญ่ ซึ่งมีวันหนึ่งคนงานพบนกตัวนี้ที่ข้างไร่ไม่สามารถบินได้ ไม่ทราบว่ามันมาจากไหน คิดว่าคงเป็นนกของใครสักคนหนึ่งที่มีบ้านอยู่ในแถบนั้น น้องสงสารเลยเอามาเลี้ยงเพราะหากปล่อยไปก็เชื่อว่าจะถูกสัตว์ป่าหรือคนฆ่าตาย จนทุกวันนี้มันไม่ยอมไปไหนเลยคงคิดว่าเป็นคนในไร่ไปแล้ว ที่ไร่นั้นมีช้างป่า กระทิง กวาง เก้ง หมูป่า นกเงือกต่างๆ เป็ดป่า ล้วนมาที่ไร่ โดยเฉพาะนกเงือกอาศัยในไร่เกือบร้อยตัว เนื่องจากเราไม่เคยทำร้ายและมีอาหารจากต้นไม้ที่ปลูกใหม่เกือบ10ปีจนกลายเป็นเขตป่ากันชนระหว่างอุทยานกับชาวบ้านจากเดิมที่นี่เป็นไร่ข้าวโพดไม่มีอะไรเลย วันนี้มีสารพัดสัตว์ป่าเข้ามายึดไร่เราเป็นแหล่งอาหารและที่อาศัยไปแล้ว

“ผมจึงขอเรียนว่าผมไม่เคยครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองใดๆทั้งสิ้น ช่วงนี้ผมเดินทางมากจึงเพิ่งได้มา post ข้อความวันนี้ อาจทำให้หลายคนมีคำถามมากมากเยอะแยะ แต่หากใครสงสัยหรืออยากไปดูนกป่าหรือสัตว์ป่าต่างๆก็เชิญแวะไปดูไร่ที่เขาใหญ่ได้ หากมีอะไรเพิ่มเติมก็เชิญส่งข้อความมาที่ Facebook นี้ได้ครับ” เพจเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ระบุ

ภายหลังการชี้แจงของนายวิกรม วันนี้(14 มิ.ย.) เพจเฟซบุ๊กคนอนุรักษ์ได้โพสต์ภาพนายวิกรม ใช้ปืนฉีดน้ำใส่นกเงือก ระบุว่า “นกเงือกสีน้ำตาล สัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ผมถามคุณวิกรม ตัวนี้ตัวที่อยู่ที่ตึกกรมดิษฐ์ กรุงเทพ ว่ามีใบอนุญาตครอบครองถูกต้องหรือไม่

“ตอนแรกผมคิดว่าคุณวิกรมน่าจะมีใบอนุญาตครอบครอง เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้หลังจากที่คุณวิกรมชี้แจงมาผมแน่ใจแล้วว่าคุณวิกรมไม่มีใบอนุญาตครอบครอง

“ตามหลัก “สัตวภูมิศาสตร์” นกเงือกสีน้ำตาล เป็นนกที่พบได้ในแถบป่าตะวันตก ไม่พบในป่าเขาใหญ่(เขาใหญ่จะพบนกเงือกสีน้ำตาลคอขาว ซึ่งเป็นคนละชนิดกัน) อยู่ดีๆ คนงานจะไปเจอนกเงือกสีน้ำตาลบินไม่ได้ในไร่ข้างๆ ป่าเขาใหญ่ได้อย่างไร

“และมันเหมือนละครไทยยังไงไม่รู้ ที่เวลาคนเหล่านี้มีสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง มักจะมีเบื้องหลังของสัตว์ป่าที่น่าเศร้า หากไม่เลี้ยงเอาไว้ต้องตายแน่ ทำนองนั้น(จริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ พิสูจน์ไม่ได้) เลยกลายเป็นวีรกรรมยิ่งใหญ่ มีความชอบธรรมที่จะมีสัตว์ป่าคุ้มครองเลี้ยงเอาไว้ กลายเป็นผู้มีบุญที่เลี้ยงสัตว์ป่าแล้วมันไม่หนีไปไหน เป็นคนมีฐานะพอที่จะสามารถเลี้ยงสัตว์ป่าได้อย่างอยู่ดีกินดี(กว่าในป่า)เป็นการอนุรักษ์สัตว์ป่ามิให้สูญพันธุ์ ?

“คือถ้าใช้เหตุผลนี้ รับรองได้ว่าคน(รวยๆ) มีสัตว์ป่าหายากเลี้ยงกันได้ทุกคน คนละหลายตัวด้วย ง่ายดีด้วยเพราะไม่ต้องแสดงหลักฐานที่มาของสัตว์ป่าอะไรมากมาย อ้างพบเห็นบาดเจ็บอยู่ข้างป่าเลยเก็บมารักษาแล้วก็เลยเลี้ยงเอาไว้

“การพบเห็นสัตว์ป่าพลัดหลงออกมานอกป่า อาจได้รับบาดเจ็บ วิธีการคือหากมีความรู้(รู้จักสัตว์ป่าชนิดนั้นเป็นอย่างดี) ก็อาจให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น อย่าเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าถ้าไม่มีความรู้ แจ้งจนท.ให้มาวินิจฉัย โดยจนท.อาจรับสัตว์ป่าไปรักษา และเมื่อรักษาหายดีแล้ว ก็จะปล่อยกลับคืนสู่ป่า

“การอ้างว่าบาดเจ็บเลยเลี้ยงเอาไว้ดีกว่าปล่อยตาย แถมไม่แจ้งจนท. เท่ากับเป็นการพรากสัตว์ป่าออกจากป่าไปตลอดชีวิตของสัตว์ป่า และเป็นการลักลอบนำสัตว์ป่าออกจากป่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และผู้ที่เก็บสัตว์ป่าไว้จะไม่ได้รับสิทธิ์ครอบครองหรือนำมาแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าได้ ต้องนำส่งสัตว์ป่าคืนแก่จนท.เท่านั้น

“ภาพนี้(ภาพฉีดน้ำใส่นกเงือก)โพสต์เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2559 หลังจากไปเที่ยวงานสงกรานต์ที่สีลมโดยระบุว่า พอกลับถึงบ้านก็ใช้ปืนฉีดน้ำมารดน้ำให้นกประจำบ้านแก้ร้อน เมื่อวานยังมีภาพนกนี้อยู่ วันนี้ถูกลบไปแล้ว ตามโพสต์นี้ https://goo.gl/XhxtOs นกเงือกสีน้ำตาลตัวนี้อยู่บนตึกของคุณวิกรมที่กรุงเทพ(ไม่รู้โดยย้ายไปหรือยัง)ไม่ใช่ที่เขาใหญ่ ซึ่ง “ถ้าเชื่อ” ตามที่คุณวิกรมชี้แจง ถ้าเก็บได้จากไร่ข้างๆป่าเขาใหญ่จริง นกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตัวนี้ต้องนำส่งคืนแก่จนท.ครับ

“ปล. จากคำชี้แจงของคุณวิกรม ผมพบว่ามีภาพนกเงือกอีกหนึ่งตัวที่ไม่ได้ถ่ายในธรรมชาติ คาดว่าน่าจะเป็นบริเวณบ้านที่ไหนสักแห่ง ไม่ทราบว่านกเงือกซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นเดียวกัน ตัวนี้เป็นของใคร มีที่มาอย่างไร มีใบอนุญาตครอบครองหรือเปล่าครับ ? ” เพจเฟซบุ๊กคนอนุรักษ์ ระบุ

ขณะที่กระแสในโซเซียล ต่างมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มนักอนุรักษ์ส่วนใหญ่มองว่าการตอบคำถามของนายวิกรม เป็นการสร้างภาพ และต้องการให้มีการตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่า โดยเฉพาะมีการโพสต์ข้อมูลและตั้งข้อสังเกตถึงสวนดึกดำบรรพ์ หรือป่ากลางเมืองที่อยู่บนดาดฟ้าตึก 6 ชั้น บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ของนายวิกรม ที่มีเคยมีรายการทีวีเข้าไปถ่ายทำแล้วพบว่ามีนกเงือกและนกอีกหลายชนิดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ส่วนกลุ่มแฟนคลับของนายวิกรม มองว่า นกเงือกหรือนกป่าที่อยู่ในไร่นายวิกรม ไม่ถือว่าเป็นการครอบครองสัตว์ป่า เนื่องจากเชื่อว่านกเข้ามาอาศัยหากินกันเอง ไม่ได้ถูกจับมา จึงไม่ถือเป็นเจตนากระทำผิดกฎหมาย และเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการจ้องจับผิด

——————–

On Key

Related Posts

เหยื่อค้ามนุษย์ 9 ชาติยื่นหนังสือร้อง กสม.ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษย์ริมน้ำเมย ร่ำไห้วอนรัฐบาลไทยสกัดแก๊งมาเฟียจีน แฉถูกทรมานสารพัด สุดอนาถแม้แต่หญิงท้องยังถูกบังคับจนพยายามฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ตัวแทนครอบครัวเหยื่อค้าRead More →