
ศาลพม่าได้ตั้งข้อหาใหม่กับนาย ยียีหลิ่น หรือ อดีตพระ “กัมบีร่า” อดีตแกนนำพระสงฆ์นำประท้วงเมื่อปี 2007 (2550) หลังกำลังจะพ้นโทษในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้นายยียีหลิ่นถูกย้ายจากเรือนจำมัณฑะเลย์ไปที่เรือนจำอินเส่ง ในย่างกุ้งแล้ว เพื่อดำเนินคดีในข้อหาใหม่
ทั้งนี้ นายยียีหลิ่น ถูกจับเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในข้อหาข้ามชายแดนจากประเทศไทยเข้าพม่าอย่างผิดกฎหมาย และถูกศาลพม่าสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน แซึ่ง กำลังจะพ้นโทษในอีกไม่กี่วันนี้
อย่างไรก็ตาม ทนายความของนายยียีหลิ่นเปิดเผยว่า ศาลได้ตั้งข้อหาใหม่กับอดีตพระสงฆ์รายนี้ในข้อหากระทำการบุกรุกวัด 3 แห่งที่ถูกรัฐบาลทหารสั่งปิดเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นการดำเนินคดีย้อนหลัง ทั้งนี้ นายยียีหลิ่นได้เข้าไปใน
ทำการเปิดประตูวัด 3 แห่งในย่างกุ้งจริง เพื่อเข้าไปอาศัย หลังจากที่พ้นโทษ เนื่องจากไม่มีที่ไป
“เขากำลังจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้แล้ว แต่ทางการกลัวที่จะปล่อยตัวเขาไป” ทนายความของนายยียีหลิ่นระบุ แม้ประเทศจะเปลี่ยนแปลงการบริหารปกครองภายใต้รัฐบาลของนางซูจี แต่ก็ยังพบเห็นเผด็จการทหารยังคงมีอิทธิพล เช่นเดียวกับกฎหมายที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ภายใต้รัฐบาลพลเรือนก็ยังคงพบเห็นการจับกุมตัวนักเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวนา และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิที่ดิน
ส่วนเหตุการณ์ประท้วงของพระสงฆ์พม่าในปี 2550 รัฐบาลทหารได้ใช้กำลังปราบปรามและจับกุมกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วง ตามข้อมูลของยูเอ็น เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีประชาชนเสียชีวิตจำนวน 31 ราย นายยียีหลิ่น เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมหลังจากนั้น โดยเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 65 ปี แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวในปี 2555 แต่แม้หลังจากออกมาจากคุก เขายังต้องทุกข์ทรมานและได้รับบาดแผลทางจิตใจจากการถูกทรมานร่างกายระหว่างที่อยู่ในคุก
หลังได้รับการปล่อยตัว เขาอาศัยอยู่และเดินทางระหว่างประเทศไทยและพม่า หลังปี 2555 เขาก็ยังคงถูกจับกุมตัวอีกหลายครั้ง เนื่องจากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนโดยทหาร “นี่แสดงให้เห็นว่า ทุกอย่างยังคงเลวร้ายเหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งอยู่ภายใต้รัฐบาลเก่า พวกเขาจะหาข้ออ้างเสมอเมื่อไม่ต้องการปล่อยตัวนักการเมืองคนสำคัญหรือนักเคลื่อนไหว” นายยันเมียวเต่ง นักวิเคราะห์การเมืองพม่าระบุ
ที่มา Irrawaddy/DVB
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ