Search

แนะทางรอดจากวิกฤตทะเลไทย ยกเลิกส่งออกปลาป่น เผยวิจัยพบกว่า 30 % เป็นลูกปลามีมูลค่าทางเศรษฐกิจ นายกสมาคมรักษ์ทะเลหวั่นความมั่นคงด้านอาหาร ศปมผ.โวไทยแก้ประมงผิดกฎหมายสำเร็จ

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก บรรจง นะแส
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก บรรจง นะแส

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 ที่อาคาร มหาจุฬาลงกรณ์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กทม.ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนานโยบายการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และ IUU ในกิจการประมงทะเลอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1 โดยมีพล.ร.อ.บงสุช สิงห์ณรงค์ หัวหน้าคณะทำงานด้านเเรงงานและการค้ามนุษย์ในภาคประมง ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นประธานการ โดย พล.ร.อ.บงสุช กล่าวว่า การแก้ปัญหาค้ามนุษย์และการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ Illegal, Unregulated and Unreported : IUUของ ศปมผ.ที่ผ่านมา ไทยประสบความสำเร็จ ทำให้ EU พอใจทั้งเรื่องการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การบังคับใช้กฎหมายและการดำเนินคดี รวมถึงเรื่องการปราบปราม ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ทำให้ผู้ทำผิดโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่นำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในรูปแบบต่างๆ เกรงกลัวและปรับตัวดีขึ้น โดยมองว่าขณะนี้ไทยเข้าสู่มาตรฐานสากลแล้วระดับหนึ่ง ส่วนข้อเสนอแนะของ สหภาพยุโรป (EU) หลังมารับฟังผลการทำงานเมื่อต้นเดือน มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีเอกสารเเจ้งให้ไทยทราบว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มอย่างเป็นทางการ แต่งานที่ได้เสนอแนะมาก็ยังมีหลายงานที่ไทยยังทำไม่แล้วเสร็จก็จะเร่งรัดดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย แก้กฎหมายลูกต่างๆ แก้กฎข้อบังคับ คำสั่ง หรือประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่อาจขัดแย้งกับตัวกฎหมายหลัก

พล.ร.อ.บงสุช กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการปราบปรามทั้งด้านการตรวจสถานแปรรูปสัตว์น้ำที่อยู่บนบกและการตรวจเรือประมง ตอนนี้ยังคงเร่งดำเนินการอยู่ โดยEU ให้เป็นฝ่ายพิจารณาตัวเอง โดยการวิเคราะห์จากผลการปฏิบัติ เพื่อกำหนดเกณฑ์การทำงานจน ถึงสิ้นปีนี้ ก่อนที่ EU จะนำผลการทำงานไปประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่ได้พูดชัดเจนว่ามีตัวใดผ่านบ้าง โดยจะประกาศผลประมาณเดือนมกราคมปี 2560 คาดว่าคงได้รับข่าวดีอย่างแน่นอน

ด้านนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเรือประมงได้รับใบอนุญาตออกจับปลาและสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยจากกรมประมง 11,000 กว่าลำ แต่ขณะนี้มีชาวประมงหลายคนได้ขายเรือ จึงขอคืนใบอนุญาตและส่วนหนึ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้จากการประเมินโดยภาพรวมเรือประมงยังคงมีจำนวนมากกว่าทรัพยากรสัตว์น้ำในน่านน้ำไทย จึงอยู่ระหว่างการหาแนวทางทำอย่างไรให้มีจำนวนเรือประมงในปริมาณที่สอดคล้องกัน รวมทั้งจะเร่งความเข้าใจกับชาวประมงและผู้ประกอบการเรือประมงเพื่อให้ปฏิบัติตามพระราชกำหนดการประมงพ.ศ.2558 และร่วมมือกันแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การรายงานและไร้การควบคุม(ไอยูยู) ทั้งนี้สำหรับกรณีการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ฝ่ายภาคประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตว่า เกี่ยวกับเรือประมงผิดกฎหมาย หรือไม่นั้น ทางกรมประมงก็ไม่อาจจะยืนยันได้ แต่คิดว่านโยบายการตรวจสอบเรือประมงภายใต้พระราชกำหนดฉบับล่าสุดน่าจะทำให้การตรวจสอบละเอียดขึ้น

ศ.ดร. เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว ว่า เรื่องใบเหลืองกรณี IUUนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ของประเทศเพราะ มาตรฐาน IUU นั้นเขาเลือกผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง หมายความว่า การประเมินผลนั้นนำเอาประเทศที่รับซื้อปลายทางมาประเมิน ซึ่งประเทศนั้นๆ อาจจะรับซื้ออาหารทะเลที่มีที่มาหลากหลาย จากประมงแต่ละประเภท ทั้งพาณิชย์และประมงเพื่อนบ้าน มีทั้งอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารแปรรูปซึ่งผ่านกระบวนการรับซื้อหลายขั้นตอน ก็แทบไม่ได้ยืนยันว่ารับวัตถุดิบจากใคร ดังนั้นไทยเองไม่ควรแตกตื่นกับสถานการณ์การประเมินของ IUU แต่ควรมองว่าจะพัฒนาการประมงที่ยั่งยืนอย่างไรบ้าง

“พื้นที่ทางทะเลของประเทศไทยถูกแบ่งด้วยแผ่นดินเป็น 2 ด้าน ซึ่งขณะนี้ การทำประมงของไทยลดลงจากเดิมมาก รวมทั้งข้อสัญญาต่างๆ ที่มีข้อจำกัดของการทำประมงบนน่านน้ำ ทั้งนี้ หากมีการบริหารจัดการที่ดี จะมีพื้นที่ทางทะเลที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกจำนวนมากเพราะทรัพยากรทางทะเลของไทยบางส่วนนั้นมีมากและเหลือเพียงพอจะบริโภค แต่ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรและทำให้เกิดวิกฤติอาหารทะเลนั้นเป็นเพราะมีการใช้เครื่องมือทำลายล้างทั้งประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ รวมทั้งธุรกิจประมงขนาดใหญ่ด้วย ดังนั้นถ้าควบคุมเครื่องมือประมงจะช่วยให้การบริหารทรัพยากรทะเลดีขึ้น”ศ.ดร. เผดิมศักดิ์

ศ.ดร. เผดิมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ที่จำเป็นต้องสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายอย่างแท้จริง ทั้งนี้ การบริหารจัดทางทะเล ก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือฝ่ายต่างๆ ไม่เพียงแค่ส่วนราชการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยภาคเอกชน และประชาชนด้วยอย่างไรก็ตาม การสร้างความตระหนักในความสำคัญของมุมมองทางวิชาการและนโยบายต่อประเด็นการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะมิติการค้าและพัฒนาระหว่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ

ขณะที่นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวว่า กรณีกรมประมงเข้มงวดในการดูแลความเรียบร้อยของเรือนั้น ก็เป็นทางออกที่ดี แต่อย่าลืมว่าสิทธิแบบใบอนุญาตปลอมก็มาก สวมสิทธิ์ปลาและสัตว์น้ำทะเลก็มีมาก ดังนั้นแค่แบ่งประเภทเรือและจำกัดพื้นที่หาสัตว์ทะเลคงไม่พอ ต่อการปราบปรามการประมงผิดกฎหมาย แต่ประเด็นคือ กรมประมงต้องมองที่เครื่องมือหาสัตว์ทะเล เช่น เรือบางลำก็ลำเล็กๆ แต่เป็นเรืออวนลาก เรืออวนรุน และการใช้ไฟปั่น การใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย ซึ่งมีบ้างใน กฏหมายประมงปี 2558 แต่ควบคุมค่อนข้างยาก เพราะเรือดังกล่าวยังนิยมจับสัตว์น้ำวัยอ่อนส่งขายโรงงานปลาป่นได้อย่างสบาย โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดต่อท้องทะเลไทย ซึ่งหากยังปล่อยให้ธุรกิจปลาป่นที่ได้มาจากการทำประมงของจากเรืออวนลาก เรืออวนรุน ยังสามารถทำผิดกฎหมาย และปลาป่นส่งออกมากมายเช่นนี้ ทะเลไทยมีแต่จะแย่ลง ยากจะฟื้นตัว ต้องขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนต้องออกมาช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลให้มีมาตรการยกเลิกส่งออกปลาป่น เพราะลำพังใช้ในประเทศก็ทำลายทรัพยากรในทะเลมากพอแล้ว การเปิดให้ส่งออกเท่ากับเปิดโอกาสให้ทำลายมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

นายบรรจง กล่าวต่อว่า สำหรับข้อมูลจากกรมประมงตัวเลขปี 2556 พบว่า ประเทศไทยมีโรงงานปลาป่นกระจายอยู่ใน 22 จังหวัดที่อยู่ติดทะเลรวม 76 แห่ง มีงานวิจัยระบุว่า ในปลาป่นทั้งหมดมีลูกปลาเศรษฐกิจปะปนอยู่มากกว่า 30% ดังนั้น หากเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเคลื่อนไหวต่อสู้ในเรื่องนี้เชื่อว่า หากอุตสาหกรรมปลาป่นหันไปใช้วัตถุดิบที่รับผิดชอบมากกว่านี้ ใช้วัตถุดิบหัวปลา หางปลา ก้างปลา จากเศษเหลือใช้ การทำประมงที่ผิดจรรยาบรรณก็จะหมดไป

“ทะเลไทยวิกฤตมานานแสนนาน แต่มองด้วยตาเปล่าๆ เห็นยาก ถ้าเมื่อใดไทยยังปล่อยให้มีเรืออวนลากในทะเลไทย ประมงชายฝั่งก็ตายแน่ๆ แถมยังมีโรงงานปลาป่นที่เสมือนโรงงานแปรรูป เรายังส่งเสริมธุรกิจส่งออกปลาป่น ทั้งๆ ที่ทะเลไทยกำลังวิกฤติ ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายก็จะไม่มีวันสำเร็จ นอกจากอาจจะทำให้ประเทศไทยต้องเสี่ยงต่อการถูกกีดกันทางการค้าตามมาตรการของกลุ่ม EU แล้ว ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียความมั่นคงทางด้านอาหารด้วย หากทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้วย” นายบรรจง กล่าว

////////////////////////////////

On Key

Related Posts

ช้างยังป่วยหลังลงเล่นน้ำกก-แพ้เป็นผื่นมีตุ่มกลายเป็นแผล ผจก.ปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตรเผยนักท่องเที่ยวหาย 80% ศิลปินแต่งเพลงรณรงค์หยุดสารพิษ พบรายวันปลาแข้เป็นโรค-เร่งส่งตรวจ

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ปางช้างกะเหรี่ยงรวมRead More →

ภาพถ่ายทางอากาศ“จิสดา”พบเปิดหน้าดินขนาดใหญ่กว่า 40 จุดที่ต้นแม่น้ำกก-น้ำสายใช้เวลาแค่ 2 ปีรุกป่าเหี้ยน ประธาน กมธ.ที่ดินจี้ใช้กลไกทางทหารเร่งหารือ-กต.ทำหนังสือประท้วงพม่าแล้ว

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ดร.พูนศักดิ์ จันทร์จำปRead More →

พบปลาป่วยในแม่น้ำโขงอีกเป็นตุ่มแดงตามครีบ-ปาก “ครูตี๋”เชื่อติดเชื้อจากลำน้ำสาขา กก-สาย-รวก ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ชาวประมงเผยไม่เคยเห็นอาการนี้มาก่อน ผู้เชี่ยวชาญแนะหาสาเหตุทำให้ปลาอ่อนแอ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายปุ๊ คนจับปลาท่าหาดไRead More →

SHRF แฉพบเหมืองแร่หายากต้นแม่น้ำกก -เปิดหน้าดินวงกว้าง-เผยใช้สารเคมีรุนแรงเทละลายหินบนภูเขา เชื่อเป็นสาเหตุสารพิษในแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย นอกจากเหมืองทอง

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใRead More →