เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 นายณัฐพล แก้วนวล ตัวแทนชาวบ้านคัดค้านเหมืองทองคำ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22 – 25 กรกฎาคม ชาวบ้านจากหลายพื้นที่ ที่คัดค้านเหมืองทอง ร่วมกันจัดกิจกรรมเดินธรรมยาตราจากอำเภอเนินมะปราง ถึงอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น โดยระหว่างทางมีการแวะพักแรมและสนทนาธรรม พร้อมกับกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องผลกระทบจากเหมืองทองด้วย เนื่องจากขณะนี้บริษัทอัครา รีสอร์สเซส กำลังเร่งมือขนแร่และทำกิจการตามปกติ ชาวบ้านในพื้นที่จึงต้องรณรงค์ความรู้เกี่ยวกับเหมืองให้เกิดขึ้นแก่สังคมไทย และเป็นการรณรงค์ให้รัฐบาลล้มเลิกโครงการที่ส่งผกกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และหันมาอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบเกษตรกรรม มากกว่าอุตสาหกรรม
“กิจกรรมเราไม่ใหญ่ เราเน้นการใช้สันติวิธี เพราะที่ผ่านมาเราก็ประท้วงใหญ่แล้วก็ยังไม่สำเร็จ เราจึงลองใช้เส้นสายธรรมะดู โดยพระที่นมัสการมาร่วมเผยแพร่ธรรมะ ส่วนมากเป็นพระในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทอง และวัดอื่นๆที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยนิมนต์มาเผยแพร่ธรรมะชั่วคราว พระก็กลับไปจำวัตรเดิม เนื่องจากเป็นช่วงเข้าพรรษา พวกเราเน้นกิจกรรมเดินเท้าเป็นหลัก มีเวทีธรรมะในเชิงชีวิตมนุษย์กับธรรมชาติ มีกิจกรรมตักบาตร ปลูกต้นไม้ และระดมทุนถวายพระเพื่อบำรุงศาสนสถานต่อไป แม้ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะได้ประโยชน์เพียงใด แต่ความสำเร็จจากกิจกรรม คือ อย่างน้อยชาวบ้านที่ได้เห็นเราเดินเท้า เราตักบาตรระหว่างทางก็ได้เข้ามาพูดคุย และเข้าใจที่มาที่ไปของการคัดค้านเหมืองทอง อย่างไรก็ตามทางกลุ่มคาดว่าจะใช้เวลาเดินเท้าไปจนถึงบ้านดงหลง อำเภอวังโป่ง ในบ่ายวันที่ 25 นี้ และจะเริ่มต้นกิจกรรมการต่อสู้ระลอกใหม่กับเหมืองทองต่อไป แม้ไม่รู้ว่าจะแพ้ หรือชนะ เพราะตอนนี้เนินมะปรางเป็นพื้นที่เดียวที่กำลังเสี่ยงต่อการถูกสัมปทาน หากพรบ.แร่ฉบับใหม่ผ่าน และมติ คณะรัฐมนตรีไม่เป็นผล ดังนั้นชาวบ้านต้องได้รู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ซึ่งธรรมยาตตาในครั้งนี้เป็นครั้งแรกแบบสันติวิธี ที่ชาวบ้านทำ” นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการสำรวจแร่ทองคำบนพื้นที่มากกว่าพันไร่ในเขตรอยต่อจังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก จนนำไปสู่การได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) นั้นเป็นเหมือนกำดักสำคัญ ที่ทำให้ชุมชนต้องแตกสลาย ช่วงเวลา 20 กว่าปีมานี้ ฉากใหญ่ของภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ที่มีใต้ดินเป็นทรัพย์มูลค่ามหาศาล ได้มีตัวละคร ทั้งนายทุน นักการเมืองระดับท้องถิ่น (และระดับชาติ) นักวิชาการ ชาวบ้าน นักเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่รัฐ สับเปลี่ยนกันแสดงนำแต่คนรับกรรมคือชาวบ้านที่นอกจากเจ็บป่วยแล้ว ยังถูกลอยแพจากหน่วยงานรัฐ และไร้คนรับผิดชอบ
วันเดียวกันในเฟสบุ๊คนางสาวธัญญารัศมิ์ สุนทรธรรมทัช (สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง)ได้เผยแพร่หนังสือหมายเรียกผู้ต้องหาจากสภ.ทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ถึงแกนนำชาวบ้านต่อต้านเหมืองทองพิจิตร 6 คน ถูกออกหมายเรียกจาก สภ.ทับคล้อ ข้อหาข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดฯ ที่บริษัทอัคราฯ เข้าแจ้งความกรณีที่ชาวบ้านพิจิตร และเพชรบูรณ์ ขัดขวางบริษัทที่ทำการขนแร่จากบ่อคิวผ่านเส้นทางสาธารณะ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งขัดกับที่ รมต.กระทรวงอุตสาหกรรมรับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่ให้ทำแร่ที่บ่อคิว และการขนแร่ผ่านเส้นทางสาธารณะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ชาวบ้านที่ถูกออกหมายเรียกประกอบด้วยนางสาวธัญญารัศมิ์ สุนทรธรรมทัช (สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง) นางสาวชัชฎาพร หล่อทรัพย์ นางสาวสิริรัตน์ ต่ายทอง นายสุทรากร พุฒวันเพ็ญ นายมานิจ ลำพะสอน และนางสาวสายฝน เผยกลิ่น ซึ่งแกนนำชาวบ้านจะทำหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 8-9 สิงหาคมนี้
