เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2559 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ตัวแทนชาวบ้านตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ราว 50 คน นำโดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ล้มเลิกแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร
นายนพดล ปวงวัฒนา ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และตัวแทนสมาชิกวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกยาสูบกล่าวว่า หลังชาวบ้านได้รับข่าวว่า รัฐบาลจะเวนคืนที่ดินที่เป็นพื้นที่ปลูกยาสูบกว่า 870 ไร่ เพื่อจัดเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ชาวบ้านมีความกังวลอย่างมากว่าจะส่งผลกระทบต่ออาชีพและวิถีชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบกว่า 3,000 คน ซึ่งยึดวิถีชีวิตพอเพียง โดยการปลูกต้นยาสูบมานานแล้ว และชาวบ้านมองว่า นี่เป็นอาชีพที่เหมาะสมที่สุดเพราะมีโรงงานขนาดเล็ก ๆ ที่รับซื้อยาสูบในจังหวัดเชียงรายหลายแห่ง โดยส่วนมากเป็นยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนีย และทางรัฐก็ได้ผลประโยชน์จากรายได้ในการปลูกใบยาสูบด้วยถึงปีละ 5 หมื่นล้านบาท หากจะต้องย้ายไปปลูกในพื้นที่อื่น ก็จะไม่ได้ผลผลิตเท่าเดิมซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่ลดน้อยลง จึงอยากให้ทางรัฐบาลพิจารณาทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ
นายนภดล กล่าวว่า ในอดีตนั้นเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบเคยมายื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยการประชุมขณะนั้น ทางกรมธนารักษ์เจ้าของพื้นที่ได้ลงความเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะทำเศรษฐกิจพิเศษ แต่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการจัดหาที่ดินฯยังยืนยันว่าจะดำเนินการทำเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ดังกล่าวเช่นเดิม ดังนั้นอยากให้นายกฯ ผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเดินหน้าแผนเศรษฐกิจพิเศษนี้ได้มีคำสั่งระงับ
อนึ่ง ข้อมูลจากคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ระบุว่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนั้น ตามแผนถูกประกาศให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนครอบคลุม 8 ตำบล พื้นที่ประมาณ 304.78 ตารางกิโลเมตร หรือ 190,487.5 ไร่ ประกอบด้วยตำบลเกาะช้าง ตำบลบ้านด้าย ตำบลโป่งงาม ตำบลโป่งผา ตำบลแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ ตำบลศรีเมืองชุม และตำบลห้วยไคร้