
การประชุมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เมืองหม่าจ่าหย่าง เขตควบคุมของรัฐคะฉิ่น ทางเหนือของพม่า เปิดฉากขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในพม่า มีรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทั้งที่ลงนามและยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลส่วนใหญ่ต่างตบเท้าเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ยกเว้นกองทัพว้า (UWSA) กองกำลังโกก้าง (MNDAA) ปะหล่อง TNLA กองกำลังนากา (NSCN-K)
การประชุมครั้งนี้ กลุ่มชาติพันธุ์ได้หยิบยกเอาประเด็นข้อตกลงสัญญาป๋างโหลงที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ.1947 มาทบทวนหารือกัน เพื่อปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน โดยขุนโอเร โฆษกของการจัดประชุมครั้งนี้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทใหญ่ป๋างโหลงว่า การหารือกันครั้งนี้ ไม่ใช่การนำเอาข้อตกลงสัญญาป๋างโหลงที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ.1947 ทั้งหมดมาหารือกัน เพราะเชื่อว่า มีกลุ่มคนบางส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และข้อตกลงสัญญาป๋างโหลงบางส่วนก็ใช้ไม่ได้กับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังและแก้ไขปรับใช้ โดยจะหารือกันเกี่ยวกับประเด็นนี้ต่อไปในการประชุม 3 – 4 วันนี้
ทางด้านนายพล เอ่นบันละ รองประธานองค์กร KIO ซึ่งเป็นองค์กรการเมืองของกองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ได้กล่าวเปิดประชุมในวันแรก ระบุว่า การเดินทางไปหารือกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกลุ่มชาติพันธุ์ได้กล่าวไว้กับนางซูจีว่า กลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วยกับข้อตกลงที่นายพล อองซาน คยทำไว้กับผู้นำชาติพันธุ์เมื่อปี 1947 และเห็นควรว่า ควรนำข้อตกลงเหล่านั้นกลับมาใช้ เพื่อให้เกิดสันติภาพขึ้นในประเทศ
ความน่าสนใจในการประชุมหารือในวันที่ 2 (27 ก.ค.) ยังมีการพูดคุยถึงประเด็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐ ที่กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ร่วมกันร่างขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2551 และหารือกันถึงแนวคิดว่า ควรให้มีการก่อตั้ง “รัฐพม่า” (Burman State) ขึ้น เช่น เขตพะโค มัณฑะเลย์ และเขตมะกวยควรรวมเป็นรัฐพม่า เพราะมีชาวพม่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
แต่ในเขตอย่างเช่น เขตย่างกุ้ง เขตตะนาวศรี เขตอิรวดี เขตสะกาย เหล่านี้ ควรตั้งเป็นรัฐชนชาติ (Nationalities States) เพราะมีชนชาติอื่นๆ อาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากชนชาติพม่า อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทั้งหมดที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยทางสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (ใต้) RCSS/SSA ได้ปฏิเสธ หากรัฐฉานถูกเปลี่ยนเป็นรัฐชนชาติ (Nationalities States)
ทั้งนี้ ทางกลุ่มชาติพันธุ์แสดงความเห็นว่า เป็นเรื่องที่ผู้นำชาติพันธุ์ยอมรับได้ยากเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ยอมให้ชาวพม่าควบคุมการเมืองใน 7 รัฐของชาติพันธุ์รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติ โดยมองว่า การก่อตั้งรัฐพม่าขึ้นมา จะทำให้มีความเท่าเทียมทางการเมืองและการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศได้
ปัจจุบัน พม่าประกอบด้วย 7 รัฐชาติพันธุ์ ได้แก่ รัฐชิน รัฐคะฉิ่น รัฐฉาน รัฐคะเรนนี รัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง รัฐอาระกัน และ 7 เขต ได้แก่ เขตมะกวย ตะนาวศรี สกาย มัณฑะเลย์ พะโค อิรวดี ย่างกุ้ง ส่วนประชากรชาวพม่าคาดว่ามีอยู่ประมาณ 60 % ของประชากรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การประชุมกลุ่มชาติพันธุ์ที่เมืองหม่าจ่าอย่างครั้งนี้ กองทัพว้า (UWSA) ซึ่งเป็นกองทัพชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดกลับไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
การหารือกันที่เมืองหม่าจ่าหย่างครั้งนี้ ทางกลุ่มชาติพันธุ์มีจุดประสงค์ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทางการเมือง และผนึกเป็นเสียงเดียวกัน รวมถึงข้อเรียกร้องไปในทิศทางเดียวกัน หากเข้าร่วมประชุมกับทางฝ่ายรัฐบาล NLD ในการประชุมใหญ่ “ป๋างโหลงศตวรรษที่ 21” ที่นางอองซูจีต้องการให้จัดขึ้น เพื่อเดินหน้ากระบวนการสันติภาพและแก้ปัญหาความไม่สงบในประเทศ โดยคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเกิดขึ้นปลายเดือนสิงหาคมนี้
ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Panglong/Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ