29 กรกฎาคม มีรายงานว่า นาย Pao Yu Yi รองผู้นำสูงสุดของกองทัพว้า (UWSA) กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด พร้อมด้วยภรรยาและคณะติดตามอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเจ้าจายลืน ผู้นำสูงสุดกองกำลังเมืองลา (NDAA-ESS) 2 เขตปกครองพิเศษทางตะวันออกและทางเหนือของรัฐฉาน จะหาพบหารือกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ด้านสื่อพม่ายังรายงานด้วยว่า ผู้นำกลุ่มติดอาวุธทั้ง 2 กลุ่มจะหารือกับพลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพพม่าในวันนี้ด้วยเช่นเดียวกันที่กรุงเนปีดอว์ เมืองหลวงของพม่า
มีรายงานว่า ผู้นำทั้ง 2 กองทัพได้เดินทางออกจากเมืองลา ทางตะวันออกของรัฐฉาน และเดินทางมายังสนามบินเชียงตุงเพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงเนปีดอว์ตั้งแต่แต่ 28 กรกฎาคม ถือเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำว้า ผู้นำกองกำลังเมืองลาและนางอองซาน ซูจี ทางด้าน นายอูซอว์เท รองผู้อำนวยการสำนักประธานาธิบดีของรัฐบาลพม่า เปิดเผยว่า การพบกันครั้งนี้ มีจุดประสงค์ก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และเป็นก้าวสำคัญสำหรับการประชุมใหญ่ “ป๋างโหลงศตวรรษที่ 21”
การเดินทางมาพบกับนางซูจี ของ 2 กลุ่มติดอาวุธครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางคณะเจรจาสันติภาพและคณะกรรมการที่จะจัดประชุมใหญ่ “ป๋างโหลงศตวรรษที่ 21″ ได้เดินทางไปในเขตปกครองของกองทัพว้าและกองกำลังเมืองลา และได้เชิญผู้นำทั้ง 2 กลุ่มมาพบกับนางซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ที่เนปีดอว์ แม้ไม่มีการเปิดเผยหารือระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ทางสำนักข่าวไทใหญ่ Panglong รายงานว่า การพบกันจะมีการหารือเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพและการเมืองในประเทศ อีกด้านหนึ่ง สื่อของพม่ารายงานด้วยว่า ทางผู้นำทั้ง 2 กองทัพ เตรียมพบหารือกับพลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพพม่าในวันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ขณะที่ในอีกพื้นที่หนึ่ง ในเมืองหม่าจ่าหย่าง รัฐคะฉิ่น ทางเหนือของพม่า ตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 17 กลุ่ม ได้หารือกันเกียวกับการเมืองพม่า ในการประชุมวันที่ 3 นั้น ทางกลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วยว่า กองทัพสหพันธรัฐ (Union Army) ในอนาคตนั้น ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพลเรือน หลังมีการถกเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง DDR หรือ การปลดอาวุธ เลิกเคลื่อนไหว และกลับคืนสู่สังคม (Disarmament, Demobilization and Reintegration : DDR) และ SSR หรือ”การปฏิรูปภาคความมั่นคง” (Security Sector Reform) โดยการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันที่ 1 สิงหาคม นี้
ที่มา Myanmar Times/สำนักข่าวไทใหญ่ Panglong/DVB
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ