เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 ชาวบ้านกลุ่มรักษ์ถิ่นเกิด ตำบลคู อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กว่า 300 คน นำโดยนายสุเดช หลีเหร็ม กำนันตำบลคู ได้เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจะนะ ขนาด 25 เมกกะวัตต์ ต่อนายสามารถ สะเงะยูนุ่ย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คู โดยก่อนที่นายกอบต.จะออกมารับหนังสือ ทางอบต.ได้ขอตัวแทน 10 คนไปประชุม ทั้งนี้นายสามารถกล่าวกับชาวบ้านว่า ตนจะรับไปพิจารณาและจะส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
หลังจากนายก อบต.ชี้แจง ชาวบ้านไม่พอใจ เพราะต้องการคำตอบจากนายสามารถว่าจะไม่อนุญาตให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเท่านั้น อย่างไรก็ตามต่อมานายอดุล ราชชำรอง ที่ปรึกษานายกอบต.ได้แจ้งกับชาวบ้านว่า จะนำหนังสือนี้ไปให้ผู้ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าครั้งนี้ โดยจะประสานให้ส่งนักวิชาการลงมาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อจะสรุปว่าจะสร้างได้หรือไม่ เพราะการจะสู้กับทุนนั้นมันต้องอาศัยงานวิชาการ
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เพราะชาวบ้านยืนยันว่าจะฟังคำตอบจากนายกอบต. ในที่สุด นายสุเดช หลีเหร็ม กำนันตำบลคูซึ่งเป็นแกนนำคัดค้าน ได้พยายามเจรจากับชาวบ้านว่าน่าจะให้โอกาสกันนายกอบต.นำไปพิจารณา แล้วเราจะมาฟังคำตอบในวันที่ 19 กันยายน 2559 นี้ ทำให้พี่น้องยอมสลายการชุมนุม แยกย้ายกันกลับบ้านในเวลา 16.30 น.
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจะก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ หมู่ 3 ของตำบลคู ซึ่งชาวบ้านกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนในรัศมี 5 กิโลเมตร ประกอบด้วยหมู่บ้าน 34 หมู่บ้าน มัสยิด 12 แห่ง โรงเรียน 8 โรง วัด 3 แห่ง ใน 8 ตำบล ฃ
ในหนังสือที่ยื่นคัดค้านระบุว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะมีผลกระทบทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีข้อกังวลดังนี้ 1.ปัญหาความแตกแยกของชุมชนและสังคม ที่แม้จะอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่กำลังทำให้เกิดความแตกแยกของชาวบ้าน จนทำให้ชุมชนอ่อนแอและกลายเป็นเครื่องมือของโรงไฟฟ้า 2.การสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น เนื่องจากโรงไฟฟ้าจะนะมีกำลังผลิตไฟฟ้าถึง 1,460 เมกกะวัตต์ โดยจังหวัดสงขลามีความต้องการไฟฟ้าเพียง 450 เมกกะวัตต์
ในหนังสือระบุว่า ถ้าหากโรงไฟฟ้าชีวมวลเกิดขึ้น คาดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสียจากกระบวนการผลิตถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำสะกอมและไหลออกไปสู่ทะเลอ่าวไทย ซึ่งจะกระทบต่อวงจรชีวิตสัตว์ และอาชีพประมงของชาวบ้าน รวมไปถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำและน้ำท่วมที่เกิดจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตจำนวนมาก และต้องมีการถมผิวดินสูงถึง 3 เมตร จนเป็นการกีดขวางทางน้ำหลากจากอำเภอนาทวี ในช่วงฤดูฝน หนังสือระบุอีกว่า เสียงดังจากการก่อสร้างและกระบวนการผลิตไฟฟ้า จะกระทบต่อโรงเรียนในพื้นที่จำนวน 8 แห่ง และปัญหาฝุ่นละอองขี้เถ้าที่เป็นกากของเสียขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ถูกปล่อยออกมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจตามมา และเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกาย และปัญหาเศรษฐกิจชุมชน ที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมต้องอาศัยน้ำฝนและแหล่งน้ำธรรมชาติ และน้ำจากชลประทาน ที่ต่อไปน้ำใต้ดินจะแห่งกระทบต่อเกษตรกร รวมไปถึงปัญหาความร้อนในอากาศที่เกิดจากกระบวนการผลิต ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน และต้นยางพารา ทำให้น้ำยางปริมาณลดลง กระทบต่อรายได้ครัวเรือน
หนังสือระบุว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าว กลุ่มรักษ์ถิ่นเกิด ตำบลคู อำเภอจะนะ จึงคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลจะนะและขอเรียกร้องให้ทาง อบต.คู ยกเลิกการอนุญาตให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวใช้พื้นที่ เพื่อหยุดโครงการดังกล่าวอย่างถาวร
นายมุหัมหมัด ล่าเม๊าะ ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า แม้เรายังไม่รู้ว่าหน่วยงานท้องถิ่นมีความเห็นต้องการ หรือไม่ต้องการโรงไฟฟ้า แต่วันนี้ชาวบ้านร่วมใจกันเดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลจะนะ เพื่อต้องการแสดงเจตนารมณ์ให้เห็นว่า คนจะนะไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราได้ไปยื่นหนังสือต่อนายอำเภอจะนะ และสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดสงขลาไปแล้ว โดยหลังจากนี้เตรียมที่จะยื่นหนังสือคัดค้านถึงสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา
—————-
