เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2559 นายสา เอ อายุ 28 ปี ชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่เมืองคาลการี (Calgary )ประเทศแคนาดา เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆที่เป็นพี่น้องชาวกะเหรี่ยงในแคนาดาทราบข่าวความทุกข์ยากของปู่คออี้และกะเหรี่ยงบางกลอยและเริ่มมีการเผยแพร่ข้อมูลกันกว้างขวางในโลกออนไลน์ ตนรู้สึกเสียใจที่เห็นปู่และชาวบ้านต้องตกระกำลำบากมาก จึงได้โทรศัพท์สอบถามที่มา-ที่ไปของการย้ายกะเหรี่ยงบางกลอยบน (ใจแผ่นดิน) ลงมาสู่บางกลอยล่างและขณะนี้กำลังเตรียมจัดแสดงดนตรีเพื่อระดมทุนช่วยเหลือพี่น้องบางกลอย โดยชาวกะเหรี่ยงที่มีฝีมือด้านดนตรีจะรวมตัวกันในนามวง “ The Greenland Band “ และจัดแสดงดนตรีระดมทุนเพื่อบริจาค ทั้งนี้ข่าวสารดังกล่าวก็เริ่มกระจายสู่โซเชียล ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะพอหาทุนได้พอที่จะส่งเงินกลับประเทศไทย
“ผมไม่รู้จักปู่คออี้นะ แต่ผมเชื่อปู่ ว่าแกอยู่ป่ามาก่อนจริงๆ ผมไม่มีคำใดๆ จะพูดนอกจากสงสาร ผมคิดว่ากะเหรี่ยงที่อยู่ในแคนาดา และประเทศที่ 3 ทุกที่ คงคิดเหมือนผม แต่พวกเขายังไม่ได้ยินเรื่องราวของปู่ก็ได้ ทางเดียว คือ จะต้องประชาสัมพันธ์ก่อน แล้วก็จัดอีเว้นท์สักอย่างให้เขารู้จักปู่ สิ่งที่ปู่ได้รับไม่ต่างจากผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม ผมเองยังฝันถึงวันสงครามสงบและบอกลาแคนาดา เพื่อไปอยู่ป่าเช่นเดิม แต่ก็ยังหาช่องทางนั้นไม่ได้ ผมไม่ใช่กะเหรี่ยงที่ได้สัญชาติไทย ไม่รู้ว่านโยบายอะไรบ้างที่กะเหรี่ยงต้องแบกรับ แต่ผมรู้มาว่าผู้ได้สัญชาติไทยแล้ว ทำไมเขาไม่สิทธิปู่อยู่แบบคนไทย ที่แคนาดามานี่ ผมได้สิทธิทุกอย่างเท่าคนแคนาดา ผมจ่ายภาษี ผมอยู่ได้ในเมืองที่ผมเลือกอยู่ และมีค่าจ้าง มีกิน มีใช้ไม่ต่างกัน ผมได้สัญชาติเป็นแคนาดาแล้ว แต่ผมยังบอกใครๆว่าผมเป็นกะเหรี่ยง ปู่คงเหมือนกัน ยังบอกใครๆว่าเป็นกะเหรี่ยง มีบ้าน มีไร่ แต่แล้วปู่ก็กลายมาเจอชีวิตแบบนี้ จนผมอดใจไม่ไหวต้องลุกมช่วย” นายสา กล่าว
นายสา กล่าวต่อว่า เดิมทีกำหนดจัดคอนเสิร์ตระดมทุน จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2559 แต่มีเหตุต้องเลื่อนไปก่อนโดยจะแจ้งอีกทีว่าเปิดคอนเสิร์ตช่วงใด น่าจะช่วงเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้จะทยอยโทรคุยกับชาวบ้านที่ประเทศไทยและใช้เวลาทำวิดีโอนำเสนอ ทำโปสเตอร์ไปก่อน เพื่อจะได้กระจายข้อมูลให้กะเหรี่ยงในแคนาดารับทราบ เพราะทุกเมืองมีกะเหรี่ยงอยู่ราว 400-500 คน และหากทางประเทศไทยมีบัญชีสำหรับบริจาคผ่านบัตรเครดิตเพื่อช่วยเหลือพี่น้องบางกลอย จะมาจากใครก็ได้ให้แจ้งบัญชีของคนบางกลอยมา ทางนี้พี่น้องกะเหรี่ยงจะช่วยเหลือเท่าที่ทำได้
“ผมย้ายมาแคนาดาตอนปี2006 เพราะสงครามสู้รบแถวๆ ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ที่อยู่ใกล้อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผมไม่ได้สบายใจนักแม้จะจะย้ายมาเพราะความจำเป็นแต่ผมยังรักและคิดถึงบ้านเกิดอยู่ ผมมั่นใจว่าผมชอบบ้านนอกกว่าเมือง แล้วทำไมผมถึงจะไม่เข้าใจความรู้สึกปู่คออี้หละ ปู่อยู่อย่างสำรวมและเคารพกติกา แต่กติกานั้นเหมือนกำลังทรมานปู่อย่างช้าๆ ผมห่วงว่าปู่จะไม่มีกิน ผมเองแม้จะคิดถึงบ้านบ้างแต่ก็ต้อทนอยู่ อย่างน้อยผมไม่อดตาย อยู่นี่ผมมีอาชีพเป็นช่างทำหลังคา แต่ว่างๆ ก็ออกไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารและเล่นเพื่อความบันเทิงกับเพื่อนๆ ผมจะช่วยเต็มที่กรณีชาวบ้านบางกลอย เพราะเราเป็นกะเหรี่ยง เราไม่ทิ้งกัน เสื้อที่เราใส่ ในทุกที่ คือ สิ่งสะท้อนว่าเราพอใจกับวัฒนธรรมของเรา” นายสากล่าว
ด้านน.ส.จิตติมา ผลเสวก ตัวแทนกลุ่มศิลปินอิสระเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดงานใจแผ่นดิน แผ่นดินใจ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-16 ตุลาคม ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร back ว่าในวันที่ 7 เป็นวันเปิดงาน เหล่าศิลปินอิสระที่วาดภาพปู่คออี้จำนวนหนึ่งจะเดินทางมาพร้อมกับภาพวาด โดยขณะนี้มีผู้วาดภาพปู่คออี้ส่งมาในห้องภาพใจแผ่นดินมากกว่า 100 ภาพแล้ว และเวลา 14.00 น.จะมีการจัดเวทีพูดคุยและถือว่าเป็นการเปิดงาน โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสุนี ไชยรส นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรังสิต นางพิณนภา รักจงเจริญ ภริยานายพอละจีหรือบิลลี่ นักต่อสู้ชาวกะเหรี่ยงที่ถูกบังคับให้หายตัวไป
น.ส.จิตติมา กล่าวว่า ในงานจะมีการแสดงดนตรี อ่านบทกวี และศิลปะแสดงสด โดยขณะนี้มีศิลปินแสดงความจำนงที่จะมาร่วมงานกันจำนวนมาก อาทิ มงคล อุทก ชัยส์บลูและเนิส ชิ สุวิชาญสมพงษ์ ทวี’ โป๊ง บางลำพูแบนด์ น้ำ คีตาญชลี เป็นต้น ในช่วงเย็น ราวๆ 5 โมง จะมีการบอกเล่าเรื่องราวในหมู่บ้านบางกลอยบน โดยชาวบ้านที่เคยอยู่หมู่บ้านบางกลอยดั้งเดิมที่ในป่าจะมาร่วมถ่ายทอด พร้อมกับการฉายภาพนิ่งโดยช่างภาพที่ขึ้นไปถ่ายภาพในหมู่บ้านบางกลอยบน และเห็นร่องรอยของหมู่บ้านแห่งนี้ หลังจากนั้นศิลปินบางกลอยจะร่วมเล่นเตหน่า พร้อมๆกับการวาดภาพสดโดยนายวสันต์ สิทธิเขตต์
น.ส.จิตติมากล่าวว่า ตลอดงานนี้ยังมีศิลปินภาพเหมือน อาทิ นายนโรดม เขม้นเขตวิทย์ มาเขียนภาพเหมือนผู้สนใจในชุดกะเหรี่ยง โดยรายได้ส่วนนี้จะสมทบกองทุนซื้อข้าวสารให้ชาวบ้านบางกลอย
/////////////////////////////////
