Search

ชาวบ้านรอเก้อ ผู้ว่าสงขลาไม่ยอมเจรจาก่อนเวที ค.1 ท่าเทียบเรือ แกนนำเผยโต๊ะอิหม่าม-ผู้ใหญ่บ้านถูกเเกณท์ไปยกมือ หลายฝ่ายร่วมค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

tepa2

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 เวลา 09.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนและตัวแทนชาวบ้านจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล จำนวน 100 คน เดินทางมารอพบผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาตามที่มีการนัดหมายกับชาวบ้านไว้ เพื่อหารือข้อเสนอยกเลิกการจัดเวทีการรับฟังความคิดเห็น (ค.1) ของท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 และการเปิดซองประกวดราคาโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือขนถ่ายถ่านหินของโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่จะมีการจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 แต่ปรากฏว่าผู้ว่าฯ ไม่ได้มาพบกับตัวแทนชาวบ้านตามนัดหมาย

นายดิเรก เหมนคร เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า เมื่อผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ ไม่ยอมลงมาพบกับชาวบ้าน ทั้งที่เป็นผู้นัดหมายกับชาวบ้านเอง ก็เท่ากับเป็นการโกหกหรือไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกับชาวบ้านเอาไว้ ซึ่งได้มารอพบตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงเย็น ดังนั้นก็จะปักหลักรอต่อไปที่หน้าศาลากลางจังหวัด จนกว่าจะยอมมาพบ เพราะตอนนี้ก็ใกล้ถึงวันเปิดเวที ค.1 และเปิดประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาแล้ว จึงต้องการพบเพื่อทวงสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน และร่วมวางแผนการพัฒนาจังหวัดสงขลาในอนาคต

“เห็นจากท่าทีของจังหวัดและสถานการณ์ในพื้นที่แล้ว คิดว่าเวที ค.1 และการประมูลน่าจะถูกจัดขึ้นตามกำหนดเดิมแน่นอน และในพื้นที่เองก็มีการเรียกโต๊ะอิหม่าม ผู้ใหญ่บ้านให้เกณท์ชาวบ้านไปร่วมเวทีและยกมือสนับสนุน ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นให้เกิดขึ้นจริงๆ คือ ให้มีการจัดเวทีให้ความรู้อย่างรอบด้านก่อนเปิดให้ตัดสินใจ แต่ก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงขอยืนยันว่าชาวบ้านเดินทางไปร่วมและคัดค้านอย่างเต็มที่แน่นอน” นายดิเรก เหมนคร กล่าว
tepa2

กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ทางตำรวจได้แจ้งกับกับชาวบ้านว่าจะไม่อนุญาติให้ชุมนุมหรือนั่งรอในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด เนื่องจากหมดเวลาราชการแล้ว แต่ชาวบ้านยืนยันว่าจะขออยู่รอต่อไป เนื่องจากการมาในครั้งนี้เป็นไปตามที่ผู้ว่าฯ ได้นัดหมายกับชาวบ้านไว้ จึงมีการเจรจากันได้ข้อสรุปว่าจะยอมให้ชาวบ้านอยู่ได้ถึงเวลา 21.00 น. และจะประสานให้ผู้ว่ามาพบภายในเวลาดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าพร้อมที่จะปักหลักค้างคืนรอพบผู้ว่าฯ ด้วย

ขณะเดียวกันเวลา 18.00 น. เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล ในนาม 33 องค์กรภาคประชาชน ได้ออกแถลงการณ์เรื่องให้ยกเลิกเวทีค.1 โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 (บ้านสวนกง) โดยมีการระบุเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.กระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในทุกระดับขั้นตอน โดยเฉพาะการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้เปิดเผย ตรงไปตรงมา และยังเป็นการนำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียว

2.การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจะต้องศึกษาภาพรวมอย่างน้อย 3 โครงการร่วมกันคือ โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 และโครงการรถไฟรางคู่เชื่อมไม่ใช่แยกศึกษาเป็นรายโครงการอย่างที่กำลังทำกันอยู่ในตอน

3.รัฐบาลต้องศึกษาความคุ้มค่าของการลงทุนอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการลงทุน และเสี่ยงต่อความสูญเสียด้านต่าง ๆ เช่นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งทรัพยากร และสังคมวัฒนธรรมของพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบโดยรวม

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 มีการออกแถลงการณ์ร่วมจาก 18 นักวิชาการและนักปฏิบัติการทางสังคม ขอให้ยกเลิกการจัดเวที ค.1 ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 โดยระบุว่า 1.ขอให้ยกเลิกการจัดเวที ค.1 โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 ที่จะจัดเวทีการรับฟังที่โรงแรมบีพีสมิหลาในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 นี้ เนื่องจากเป็นเพียงเวทีพิธีกรรม และไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการจัดเวที

2.กระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่ควรจะเป็น ต้องเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมที่ให้คุณค่าอย่างยิ่งต่อความเห็นของทุกฝ่าย มีการแลกเปลี่ยนรับฟังอย่างกว้างขวาง จริงจัง จนเกิดความเห็นร่วมของประชาชนในการตัดสินใจอนาคตของจังหวัดท้องถิ่นของเขาเอง โดยไม่ใช่ส่วนกลางมาตัดสินใจมาแล้วจึงมาเปิดเวทีรับฟัง ซึ่งกระบวนการเช่นนี้เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ต้องมีการปรึกษาหารืออย่างเข้มข้นระหว่างภาครัฐกับทุกภาคส่วน โดยโจทย์ที่คนสงขลา-สตูลต้องร่วมกันตัดสินก่อนคือ กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดว่าจะพัฒนาสงขลา-สตูลไปในทิศทางใด

3.การตั้งโจทย์ที่ผิด ย่อมไม่สามารถนำสู่การหาคำตอบที่ถูกต้องได้ การดื้อดึงจัดเวทีให้สำเร็จนอกจากได้คำตอบที่ผิดแล้ว ยังจะนำมาสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงของสังคมสงขลาได้ อาจนำไปสู่ความรุนแรงที่ไม่คาดคิดได้

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ