สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

ขบวนชาวบ้านจัดงานให้กำลังใจ “พลากร” หลังเจอคำสั่งย้ายจาก ผอ.พอช.ไปประจำสำนักนายกฯ

received_1291738447536104

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่สำนักงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช) กรุงเทพฯ ชาวบ้านจากภาคีเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ การเคหะแห่งชาติ มูลนิธิชุมชนไท สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สลัมสี่ภาคและกลุ่มคนไร้บ้าน ฯลฯ กว่า 300 คนร่วมกันจัดงาน “จากใจถึงใจ มอบแด่พลากร วงค์กองแก้ว” เนื่องในโอกาสที่นายพลากร วงค์กองแก้ว ผู้อำนวยการ พอช.ถูกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559

สำหรับบรรยากาศทั่วไปของงานนั้นเริ่มจากการเปิดวิดีทัศน์แสดงภารกิจในช่วงที่นายพลากรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ พอช.ระยะเวลา 3 ปีกว่า ต่อด้วยกิจกรรมการอ่านบทกวี การทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ จากนั้นตัวแทนทุกภาคส่วนได้กล่าวแสดงความรู้สึก มีการมอบของที่ระลึก

ทั้งนี้ผู้แทนชาวบ้านจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ท่านได้รับหน้าที่ใหม่ แต่อีกด้านรู้สึกเสียใจที่ท่านจากบ้านหลังนี้ไป แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามเชื่อว่า ผอ.พลากร จะทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดี เหมือนกับที่อยู่ที่ พอช. และขอให้รักษาความดีนี้ท่านได้นำกลับไปใช้ที่สำนักนายกด้วย ขณะที่ผู้แทนภาคกลางตะวันตก กล่าวว่า คิดว่า ท่าน ผอ.ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กำลังใจต่อผอ.จะไปถึง และกำลังใจนี้สำคัญมากๆ ไม่ว่าท่านจะอยู่สำนักนายกหรืออยู่ที่ไหนของประเทศไทย ท่านทำเพื่อประเทศไทย เราจะให้กำลังใจท่านเสมอ

ด้านนายพลากร กล่าวเปิดใจว่า “การไปครั้งนี้เป็นกระบวนการที่ไม่ค่อยจะรู้ตัวเท่าไหร่ครับ คล้ายๆ กับว่าเรายังอยู่ แต่จริงๆ แล้วตัวเองต้องไป เมื่อวานไปรายงานตัวกับปลัดสำนักนายกฯ ท่านยังตกใจว่าเฮ้ย องค์การมหาชนจะมาอยู่กับผมยังไง ผมไม่มีระเบียบ ไม่มีกฎหมายอะไรรองรับเลย จะทำยังไงเนี่ย จะบริหารยังไงเนี่ย ใครเป็นหัวหน้าคุณ ผมยังไม่รู้เลย คุณจะย้ายมาอยู่กับผม หรืออยู่กับนายกฯ ผมยังไม่รู้เลย สำนักนายกฯ ที่มี 2 หน่วยงานใหญ่ครับ คือ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกเป็นหัวหน้า แล้วก็สำนักปลัด ซึ่งปลัดเป็นหัวหน้า สำนักปลัดต้องทำเรื่องนี้ถึงสำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพร) ว่า ตกลงคุณพลากรไปเป็นลูกน้องใคร”

“ตอนนี้ผมไม่รู้ใครเป็นใคร ออกจากนี่ไปไม่มีหัวหน้าเลย ถามว่ามีโต๊ะทำงานไหม ที่นั่นไม่มีเลย อัตราราชการที่นั่นนี่ 150 กว่าอัตรานะครับ ผู้ว่า รองผู้ว่าไม่มีที่นั่งกันเลย ส่วนอีก 50 อัตราเนี่ย ผมเป็นคนที่ 4 ส่วน 3 คนแรกเป็นญาติคุณทักษิณ ผมยังงงเลยไปเกี่ยวอะไรกับคุณทักษิณ อีกอย่างนะตอนโทรไปปรึกษารูปแบบงาน ผมโทรไปคุยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ถามว่า คุณจะมาทำอะไรในสำนักนายกฯ แล้วคุณบันทึกการประชุมเป็นไหม หรือทำงานประชุมได้ไหม ผมเลยบอกว่า ผมไม่เคยจัดเลย เลยคิดว่าจะคุยกับทางท่านรองนายกสมคิด ซึ่งท่านบอกว่า อาจจะให้ผมไปช่วยงานเรื่องทีมประชารัฐ ก็เลยคิดว่าการย้ายครั้งนี้สลับซับซ้อนพอสมควร ดีไม่ดีอาจจะถูกย้ายกลับมาก็ได้ครับ ผมไม่ทราบ ที่นั่นไม่รู้จะบริหารเรายังไง ตอนนี้ก็บริหารแบบตามอัธยาศัยก่อน เขาย้ำว่า ถ้าผมเข้า พอช.ให้ผมเรียนกับรักษาการ ผอ.ด้วย เพราะเดี๋ยวรักษาการจะสับสน ต้องรอเขาสั่งการก่อนแล้วจะให้ดีให้อยู่แต่ในกรุงเทพเนี่ยแหละ ถ้าออกต่างจังหวัดไม่มีคนสั่งคุณ คุณไปได้ยังไง ต้องรอสั่งเท่านั้น” นายพลากร กล่าว

นายพลากร กล่าวด้วยว่า การทำงานที่ไม่มีหัวหน้า ตนตกใจเลยทีเดียวว่า แล้วจะกลับบ้านต่างจังหวัดอย่างไร นี่เป็นนโยบายที่ลำบากมาก ตนทำตัวไม่ถูก เมื่อก่อนผมทำงานเสร็จ ตี 3 ตี 4 ตอนนี้ทำไม่ถูก ตื่นมาไม่รู้จะไปไหน จะทำอะไร แต่เมื่อต้องทำก็จะทำให้ดีที่สุด และสัญญาว่าจะหาทางเชื่อมงานที่เคยทำอยู่ให้ทำต่อด้วยกันได้ ตัวผมเองก็เคยคุยเรื่องการไปช่วยงานกองทุนหมู่บ้านแต่โดนคำสั่งว่าต้องประสานงานกับระดับอธิบดีหรือเทียบเท่าเท่านั้น

นายพลากรกล่าวว่า แนวทางที่วางไว้และต้องการทำมาตั้งแต่แรกคือการปฏิรูปองค์กรโดยการกระจายอำนาจ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่งสำเร็จในปีที่ 3 คือ การเน้นการกระจายอำนาจการบริหารสู่ท้องถิ่น แล้วตอนนี้ผู้อำนวยการภาคก็มีการบริหารเต็มตัว และนี่คือความสำเร็จแล้ว สิ่งนี้เองจะตอบถึงความคืบหน้าในการกระจายงบประมาณซึ่งเรากระจายไปในภาคหมดแล้ว ปีนี้เป็นปีที่เราเฟื่องฟูที่สุดในเรื่องงบประมาณ อยากฝากไว้ว่างบประมาณที่มากมาย ทำอย่างไรให้กระจายไปยังตำบล อำเภอ จังหวัดมากที่สุด แนวทางที่ 2 คือ เน้นการกระจายแนวราบ คือ กระจายสู่ชุมชน มีการจัดการระดับท้องถิ่น ท้องถิ่นคุยตรงกับผู้บริหาร กระบวนการนี้เกิดกับหลายๆภาค และทุกภาคจัดตัวเองรวดเร็ว 3 เรื่องการประสานภาคีทั้งหมด คือ เราฟื้นฟูการจัดการร่วมกันในพื้นที่ และสุดท้าย 4 คือการถอดบทเรียนเพื่อเรียนรู้ ซึ่งเราทำได้แล้วและฝากไว้สำหรับทุกคนด้วย

“สุดท้าย ผมอยากฝากว่า ถ้ามีอะไรให้ผมทำหรือทำอะไรที่เกิดประโยชน์ต่อองค์กรให้ติดต่อผมได้ เพราะตามกฎหมายผมยังเป็นลูกจ้าง พอช.อยู่ ลูกจ้างคนนี้ยินดีอย่างยิ่งจะทำงานร่วมด้วย แต่ต้องขออย่างเป็นทางการ อาจจะวุ่นวาย ละบากหน่อย ผมทำอะไรเองไม่ได้ หรือว่าอยากมีอะไรให้สื่อสาร ให้คุยกับท่านรองนายกฯ ท่านายกฯหรือทำอะไรเกี่ยวกับนโยบายใด ก็ให้ผมเชื่อมโยงได้ คืออยากให้ทุกคนเห็นว่าเส้นทางที่เราไม่ได้เลือกนี้ เราก็ต้องไปต่อให้ได้ และเราต้องทำให้ได้ในเวทีต่างๆและในการทำงานต่อไป คิดว่าจะมีงานใหญ่ต้องทำกันอีก” นายพลากร กล่าว

/////////////////

On Key

Related Posts

ย้ายอองซานซูจี-อูวินมิ้น ออกจากเรือนจำไปบ้านพักเหตุสุขภาพย่ำแย่ ฝ่ายต่อต้านโจมตีโรงเรียนนายร้อยทหารในเมืองปวินอูหลิ่น มีผู้เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีก 12 นาย

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายน 2567  สำนักข่าว ChindRead More →

KNU ประกาศกอบกู้มหารัฐกลอทูเลภายใต้ปฏิบัติการ Taw Mae Pha Operation ยื่นคำขาดทหารทัพแตกมอบตัวภายใน 2-3 วัน เผยเตรียมหารือกองกำลังฝ่ายต่อต้านบริหารเมืองเมียวดี ระบุสกัดกั้นทัพเสริม SACจนถอยร่น

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 ภายหลังกองปลดปล่อยแห่งชRead More →

ชักธงกะเหรี่ยงขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเมืองเมียวดี-เผาธงชาติพม่าทิ้ง KNU ประกาศทางสัญลักษณ์ยึดพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ รศ.ดุลยภาคชี้จีนเป็นตัวแปรสำคัญ

วันที่ 15 เมษายน 2567 ที่กองบัญชาการควบคุมที่ 12 หRead More →

รัฐคะเรนนียังรบกันเดือด โฆษก IEC เผยฝ่ายต่อต้านยึดพื้นทางทหาร SACได้เกือบหมด-ปิดล้อมบอลาเค-ผาซอง ส่วนสู้รบในเมืองเมียวดีกองกำลังชาติพันธุ์รุมสกัดขบวนทหารพม่าเสริมทัพ

v เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 นายบันยา (Banya) โฆษกRead More →