
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2560 ที่ชุมชนวังหีบ ตำบลนาหลวงเสน อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาเหมน-วังหีบ และเครือข่ายชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 10 พื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรม “ป่า-ก์ยาตรา เดินเท้ารณรงค์หยุด 9 เขื่อน 1 แม่น้ำนครศรีธรรมราช” เพื่อแสดงพลังคัดค้านโครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ ที่จะสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าปลายคลองวังหีบ โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน
สำหรับวันแรกของการเดินรณรงค์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคม โดยเริ่มต้นที่ชุมชนวังหีบ ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันสุดท้าย เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ตลอดการเดินรณรงค์ทั้ง 3 วัน จะมีเครือข่ายนักอนุรักษ์จากทั่วประเทศ เครือข่ายศิลปิน หมุนเวียนมาร่วมกิจกรรม รวมทั้งเครือข่ายนักวิชาการลงพื้นที่สำรวจป่าและคลองวังหีบ เพื่อเก็บข้อมูลเปรียบเทียบกับรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ระบุว่าไม่พบสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหายาก แต่การสำรวจล่าสุดกลับพบสัตว์ป่าหลายชนิด อาทิ เลียงผา กวางผา สมเสร็จ เสื้อดาว เสือดำ เป็นต้น
นายกัมพล จิตตะนัง ผู้ประสานงานกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาเหมน-วังหีบ กล่าวว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรีทบทวนและพิจารณาแผนการจัดการน้ำของจังหวัดนครศรีธรรมราชใหม่ ซึ่งไม่เฉพาะเขื่อนวังหีบเท่านั้น แต่รวมไปถึงเขื่อนทั้ง 9 เขื่อน และการขุดแม่น้ำไชยมนตรี เพราะเป็นโครงการที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสิทธิชุมชนอย่างรุนแรง การเดินรณงค์ในวันนี้จึงมีขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ได้สะท้อนข้อเท็จจริงต่อคนในจังหวัดได้เข้าใจถึงโครงการเขื่อนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วจังหวัด
“แม้คนส่วนใหญ่จะรับรู้ว่าจะมีเขื่อนเกิดขึ้น แต่ชุมชนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาส่งเสียงว่าพวกเขาไม่เห็นด้วย เพราะหน่วยงานราชการมักใช้วาทกรรมว่าเขื่อนเป็นโครงการในพระราชดำริ ซึ่งชาวบ้านกลัวไม่กล้าค้าน เราจึงต้องพยายามรวมพลังเคลื่อนไหวเพื่อทำความเข้าใจใหม่ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้ร่วมคิดร่วมทำในโครงการพระราชดำริต่าง ๆ เพราะเคยมีพระราชดำรัสว่าโครงการพัฒนาต้องคิดอย่างรอบคอบ อย่างให้ประชาชนเดือดร้อน จึงได้คุยกันว่าเราต้องสู้ด้วยเหตุผล ไม่ใช้ค้านหัวชนฝา” นายกัมพล กล่าว
นายกัมพล กล่าวอีกว่า ที่มีการอ้างว่าการสร้างเขื่อนวังหีบจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองทุ่งสงนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่จริง เพราะคลองวังหีบไม่ได้ไหลผ่านตัวเมืองทุ่งสง ดังนั้นการสร้างเขื่อนจึงไม่ได้ช่วยป้องกันน้ำท่วม รวมไปถึงไม่สามารถแก้ภัยแล้งได้ เพราะการสร้างเขื่อนในป่าเท่ากับเป็นการทำลายแหล่งต้นน้ำ เมื่อไม่มีป่าก็ไม่มีน้ำเติมให้กับแหล่งน้ำ หากรอฤดูฝนอย่างเดียวปริมาณน้ำย่อมไม่เพียงพอ เมื่อเขื่อนมีน้ำเหลือน้อยก็ต้องเก็บน้ำที่เหลือไว้เพื่อรักษาโครงสร้างของเขื่อน ทำให้ไม่สามารถปล่อยน้ำช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ หรือหากฝนตกหนักจนเกิดปริมาณเก็บกัก เขื่อนก็ต้องปล่อยน้ำลงมาท่วมพื้นที่ใต้เขื่อน ดังนั้นการสร้างเขื่อนจึงเป็นการซ้ำเติมภัยแล้งและภัยน้ำท่วมมากกว่า ซึ่งรัฐจำเป็นต้องถอดบทเรียนการจัดการน้ำของประเทศไทยใหม่ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านไปกับการสร้างเขื่อนทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยไม่เกิดประโยชน์และไม่อาจแก้ปัญหาได้จริง
——————-



