Search

กสม. รุดเยี่ยมชุมชนลาหู่ อ.เชียงดาว วอนทหารเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดด่านตรวจบ้านรินหลวง จุดวิสามัญเยาวชนลาหู่ ช่วยคลายข้อสงสัยจากภาคสังคม


จากกรณีเครือข่ายด้านชาติพันธุ์และองค์กรด้านสิทธิได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนชาวลาหู่ รวมถึงเรียกร้องให้ปกป้องพยานบุคคล นักสิทธิมนุษยชนที่มีความสัมพันธ์กับนายชัยภูมิแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2560 กสม.โดย นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง และนางเตือนใจ ดีเทศน์ ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนสถานะบุคคลของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ได้ลงพื้นที่บ้านกองผักปิ้ง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะผู้นำชุมชนเพื่อติดตามสถานการณ์


นางอังคณาให้สัมภาษณ์ภายหลังการเยี่ยมชุมชนชาวลาหู่ว่า ในส่วนของตนนั้นได้เน้นที่การตรวจสอบกรณี พี่เลี้ยงของนายชัยภูมิ ถูกข่มขู่ โดยแนะนำให้มาลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมนั้นทราบว่า ในคืนวันที่ 22 มีนาคม ภายหลังจากที่นายชัยภูมิเสียชีวิตไม่กี่วัน ได้มีเสียงดังอยู่บริเวณหน้าบ้าน สักพักจึงออกไปดูที่หน้าบ้านพบกระสุนปืนวางอยู่ 1 นัด บริเวณขอบกำแพงห้องน้ำ และก่อนหน้านั้นมีชาย 2 คนไม่ทราบชื่อและนามสกลุเข้ามาที่บ้านซึ่งไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นใคร แต่มาบอกว่าให้หยุดเคลื่อนไหว หยุดพูดเรื่องชัยภูมิ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องที่ต้องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของชัยภูมิต้องตกภายใต้ความกังวลหลายอย่าง จึงไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลอย่างเต็มที่

“เราพบแล้วว่าเขาถูกคุกคาม เราจึงแนะนำเขาว่า กรณีที่รู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น กรณีที่ได้ยินว่ามีเสียงเหมือนคนเดินบนหลังคา พอออกไปดูพบกระสุนปืน เราให้เขาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้จะได้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น” นางอังคณา กล่าว

ด้านนางเตือนใจ กล่าวว่า กสม.อยากทราบว่าเพราะเหตุใดเหตุการณ์นี้จึงต้องนำไปสู่การวิสามัญ ซึ่งทางสังคมเองอยากรับรู้ข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ก่อนการวิสามัญนั้นรุนแรงเพียงใด ซึ่งถ้าทางเจ้าหน้าที่ทหารเปิดเผยว่ามีกล้องวงจรปิด อยากให้ทางแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยภาพทั้งหมดจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ด่านบ้านรินหลวง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่มีการวิสามัญนายชัยภูมิ ตนคิดว่าทางทหารควรเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย และช่วยคลี่คลายความโปร่งใสได้ และมั่นใจว่าจะเป็นธรรมทั้งต่อเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายเครือข่ายชาวบ้าน

“อีกอย่าง คือ กรณีที่อ้างเรื่องเลขที่บัญชีไม่ปกติ นั้นอยากให้เปิดเผยให้ชัดเจน เรื่องทั้งหมดที่ควรจะเปิดเผยนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะตราบใดที่ชาวบ้านยังงง ยังสับสนอยู่ มันจะสร้างความไม่สบายใจอย่างมาก ชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์เขาหวั่นไหว สิทธิอะไรก็ไม่ได้มีเท่าคนสัญชาติไทยแล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องความทุกข์เช่นนี้ อยากเห็นความเท่าเทียมบ้าง เพราะหลายคนก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่และเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการวิสามัญฆาตกรรมที่ยังไม่พบหลักฐานการทำผิดชัดเจน จึงอยากฝากไปถึงแม่ทัพภาคที่ 3 ว่า การพูดความจริงและการเปิดเผยข้อเท็จจริงบางประการไม่มีอะไรเสียหาย แต่จะช่วยสร้างความยุติธรรมมากขึ้น” นางเตือนใจ กล่าว
////////////////////////

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ