กระทรวงสวัสดิการสังคมและการย้ายถิ่นฐานของพม่าและยูนิเซฟได้ทุ่มงบประมาณ 5.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำโครงการช่วยเหลือเหลือและพื้นฟูเยียวยาเหยื่อจากกับระเบิดในประเทศ รวมไปถึงให้ความรู้และตระหนักถึงของภัยของกับระเบิด เนื่องในวันเป็นรณรงค์การดำเนินการด้านทุ่นระเบิดสากล (International Day For Mine Awareness and Assistance in Mine Action) ซึ่งตรงกับวันที่ 4 เมษายนของทุกปี โดยจัดงานเปิดตัวโครงการนี้ที่เมืองเนปีดอว์ เมืองหลวงของพม่า และที่รัฐกะเหรี่ยง
มีรายงานว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีเหยื่อที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดในพม่า 298 คน โดยพบว่า 1 ใน 3 เป็นเด็ก การจัดโครงการช่วยเหลือเหยื่อกับระเบิดนี้จะดำเนินงานในพื้นที่อย่างรัฐคะฉิ่น รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง เขตตะนาวศรี ซึ่งเป็นพื้นที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากระเบิดกว่า 1 แสนคน
นาย Bertrand Bainvel ตัวแทนยูนิเซฟประจำพม่าเปิดเผยว่า จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อลดกับระเบิดที่มาจากสงคราม รวมถึงจะต้องให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นกับผู้รอดชีวิตจากกับระเบิดในระยะยาว โดยยอมรับค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเหยื่อระเบิดนั้นสูงมาก ขณะที่การเปิดตัวโครงการนี้ในรัฐกะเหรี่ยง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากกับระเบิดมากที่สุด
ซอชิดขิ่น โฆษกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติเปิดเผยว่า กับระเบิดที่ยังไม่ได้กู้กลายเป็นภัยคุกคามความมั่นคง สุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน โดยมีประชนได้รับอันตรายจากกับระเบิดทุก ๆ วัน
มีรานงานว่า ขณะนี้รัฐบาลรัฐกะเหรี่ยงกำลังให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิดจำนวน 69 คน ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อระเบิดแห่งใหม่จะเปิดในวันที่ 10 เมษายนนี้ ที่เมืองทันเดาจี โดยจะให้การช่วยเหลือฟื้นฟูเหยื่อระเบิดจำนวน 363 คน
องค์กร The Landmine and Cluster Munition Monitor ซึ่งเป็นองกรสากลเพื่อรณรงค์และยุติการใช้กับระเบิด เปิดเผยรายงานว่า ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา มีพลเรือนในพม่าต้องเสียชีวิตจากกับระเบิดมากกว่า 419 คน และยังได้รับบาดเจ็บอีก 3,156 คน อย่างไรก็ตาม ในรายงานระบุว่า ตัวเลขของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เปิดเผยออกมาอาจน้อยกว่าตัวเลขของความเป็นจริง
ที่มา DVB
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ