นักศึกษาจากเขตสะกายจำนวน 2 คน และจากเขตมัณฑะเลย์อีก 2 คน ถูกศาลสั่งจำคุกคนละ 3 เดือน กรณีที่ออกมาประท้วงสถาบันว่าใช้กฎระเบียบเข้มงวดเกินไป และวิจารณ์ระบบการศึกษาในประเทศว่าเหมือนระบบเผด็จการทหาร โดยทั้งหมดได้ออกมาประท้วงหน้าสำนักงานการศึกษาในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อเดือนก่อน นอกจากนี้ยังถูกสั่งจำคุกเพิ่มอีกคนละ 1 เดือน เหตุมีพฤติกรรมหมิ่นศาล รวมเป็นคนละ 4 เดือน
นักศึกษาทั้ง 4 คนประกอบด้วย นายโกซอว์ เยทุต นายโกเท็ต นินอ่อง จากมหาวิทยาลัยในเขตสะกาย นายเยเมี่ยวส่วย และนายเข่าซอฮิน จากมหาวิทยาลัยมัณฑะเลย์
โดยก่อนหน้านี้ นายโกซอว์ เยทุต และนายโกเท็ต นินอ่อง นักศึกษาจากวิทยาลัยการศึกษาสกาย ได้ออกมาประท้วงหน้าสำนักงานการศึกษาในเมืองมัณฑะเลย์ เหตุไม่พอใจที่ทางวิทยาลัยของตนจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือสัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น ทั้งสองได้ร้องเรียนไปยังผู้บริหารแต่เรื่องก็เงียบเฉย จนตัดสินใจออกมาประท้วงและถูกจับดำเนินคดีในที่สุด
มีรายงานว่า ระหว่างที่ถูกนำตัวขึ้นศาล นักศึกษาทั้ง 4 คนได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ถอดกุญแจมือ แต่ก็ถูกปฏิเสธ จึงได้ตอบโต้ด้วยการร้องเพลงการเมืองตลอดช่วงที่ศาลอ่านคำตัดสิน
นอกจากนี้ ทั้งหมดยังถูกศาลตัดสินให้เสียค่าปรับจำนวน 20,000 จั้ต (ประมาณ 512 บาท) หรือยอมจำคุกเพิ่มอีกคนละ 1 เดือน ในข้อหาไม่เคารพศาล หลังจากทั้งหมดปฏิเสธที่จะขึ้นศาลเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งนักศึกษาทั้ง 4 คน เลือกที่จะถูกจำคุก โดยอ้างว่า เหตุที่ไม่อยากขึ้นศาลเพราะไม่เชื่อในระบบยุติธรรมในประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2008 (2551) ที่ทหารร่างขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังการตัดสิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังลากนักศึกษาทั้งหมดขึ้นรถกลับไปที่เรือนจำ
ด้านนายโซตานหม่อง ผู้ปกครองของนายเข่าซอฮิน กล่าวว่า การประท้วงรัฐบาลและรัฐธรรมนูญปี 2008 จะเกิดขึ้นต่อไป จนกว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
“หากยังมีการใช้รัฐฉรรมนูญปี 2008 รัฐบาลจะยังคงต้องเผชิญกับการประท้วงจากนักศึกษา ชาวนาและคนอื่นๆ ในความคิดของผม ทุกคนในประเทศต้องมาร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้” เขากล่าว
ที่มา DVB
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.