มีรายงานว่า ขณะนี้โลกโซเชียลในพม่ากำลังมีการแชร์ภาพวิดีโอกลุ่มชายแต่งเครื่องแบบคล้ายทหารพม่าจับชาวบ้านใส่กุญแจมือและได้ลงมือทำร้ายร่างกายชาวบ้าน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ทางการพม่าตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทหารพม่ามักถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐชาติพันธุ์
ในภาพวิดีโอทหารพม่าได้จับชายประมาณ 3-6 คน ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร ใส่กุญแจมือไว้ข้างหลังพร้อมกับลงมือทำร้ายร่างกายอย่างหนัก พร้อมกับตั้งคำถามในทำนองว่าเป็นทหารปะหล่อง TNLA หรือไม่ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในรัฐฉานและยังคงจับปืนสู้กับกองทัพพม่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่
ทางด้านนายแมทธิว สมิธ ผู้ก่อตั้งองค์กร Fortify Rights ออกมาเรียกร้องให้ทางการพม่าดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเร่งตรวจสอบว่าชายที่ถูกจับกุมในวิดีโอนั้นยังปลอดภัยดีหรือไม่และถูกคุมขังอยู่ที่ไหน
ขณะที่ในพื้นที่เมืองจ้อกเม ทางเหนือของรัฐฉาน ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการปะทะกันระหว่างทหาารพม่าและทหารปะหล่อง TNLA รวมถึงระหว่างทหารปะหล่อง TNLA และทหารไทใหญ่ RCSS/SSA กำลังได้รับผลกระทบจากการวางกับระเบิด โดยเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา มีพลเรือนได้เหยียบกับระเบิดของทหารปะหล่อง TNLA จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหน้านี้ ก็มีการแจ้งว่า ทหารปะหล่อง TNLA ได้วางกับระเบิดในไร่ชาของชาวบ้านอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้กำลังผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้จัดประชุมกับ 7 กลุ่มติดอาวุธที่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า อย่างกองทัพว้า UWSA กองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA กองทัพเมืองลา NDAA กองกำลังปะหล่อง TNLA กองกำลังโกก้าง MNDAA และกองทัพอาระกัน AA ที่บ้านพักส่วนตัวในกรุงเนปีดอว์ โดยมีรายงานว่า ทางกลุ่มติดอาวุธได้ระบุกับนางซูจีว่า จะไม่ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงแห่งชาติ NCA ฉบับที่มีอยู่ในตอนนี้ โดยเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อตกลงหยุดยิงใหม่ และเรียกร้องทางรัฐบาล NLD ทำตามข้อเรียกร้องของทั้ง 7 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลพม่ากับกองทัพพม่าระบุไว้ชัดเจนว่า กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์จะต้องทำตามทีระบุไว้ NCA ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้กระบวนการสันติภาพในพม่าสะดุดหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธส่วนใหญ่ยังไม่ยอมลงนามหยุดยิง
มีรายงานอีกด้วยว่า กลุ่มติดอาวุธทั้ง 7 กลุ่มได้เดินทางกลับก่อนที่การประชุมสัญญาป๋างโหลงจะเสร็จสิ้น โดยบินตรงจากเมืองเนปีดอว์ไปยังเมืองคุนหมิงของจีน ทั้งนี้ การพบปะกันระหว่างรัฐบาล NLD และกลุ่มติดอาวุธทั้ง 7 กลุ่มเกิดขึ้นได้ เชื่อว่าจีนนั้นมีส่วนร่วมและเข้ามามีบทบาท
ที่มา รอยเตอร์/Tai Freedom/สำนักข่าวชายขอบ