
สำนักข่าวเวียงจันทน์ไทมส์ของทางการลาวรายงานเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้จำนวนของสวนกล้วยในแขวงอุดมไซยได้หยุดดำเนินการลง หลังจากที่สัญญาสัมปทานหมดอายุลง เนื่องจากการร้องเรียนของชาวบ้านหลายแห่งเกี่ยวกับด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มีการสัมปทาน โดยขณะนี้มีสวนกล้วยทั้งหมด 11 บริษัทที่ได้รับสัมปทาน และเหลือเพียง 7 บริษัทที่ยังคงดำเนินการต่อ ส่วนอีก 4 บริษัทหมดสัมปทานและหน่วยงานท้องถิ่นไม่ต่อสัญญาให้

นายบุญยืน สายะเว็น เจ้าหน้าที่แผนกสิกรรมและป่าไม้แขวง กล่าวกับว่า 11 บริษัทได้สัญญาสัมปทานและเช่าที่ดินของชาวบ้านเพื่อปลูกกล้วย แต่มี 4 บริษัทได้เลิกทำสวนกล้วยเมื่อสัญญาสัมปทานหมดลง โดยผู้ลงทุนได้คืนที่ดินให้กับเจ้าของที่เมื่อสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลง ส่วนบริษัทที่ยังดำเนินการอยู่ยังเหลือเวลาอีก 3 -5 ปี แต่บริษัทต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐในการรักษาสิ่งแวดล้อมในระหว่างสัมปทาน
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมา สำนักนายรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งให้เก็บผลผลิตกล้วยเพื่อหยุดดำเนินการ ส่วนบริษัทที่เช่าที่ดินนับพันเฮกตาร์และได้ปลูกกล้วยไปแล้วไม่อนุญาตให้ปลูกเพิ่มหลังจากการเก็บเกี่ยวในรอบนั้น สวนกล้วยจีนไม่ได้พบเพียงในเขตภาคเหนือของลาว แต่มีอีกหลายเฮกตาร์ที่กำลังเพาะปลูกและเก็บผลผลิตในแขวงเวียงจันทน์และเขตเมืองหลวง ตามรายงานของสภาแห่งชาติเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บางจังหวัดได้ใช้สารกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหญ้าและปุ๋ยเคมี แต่สถานการณ์เหล่านี้กลับไม่มีการรายงานไปถึงสภา ทั้งที่ชาวบ้านบางคนป่วยและเสียชีวิตหลังจากที่มีการฉีดสารเคมีในสวนกล้วย แต่ในรายงานไม่ได้กล่าวถึงพื้นที่เกิดเหตุ ปัจจุบันไม่มีกล้วยจากสวนกล้วยจีนวางขายในตลาดท้องถิ่น ผลผลิตกล้วยทั้งหมดถูกส่งกลับไปที่จีน โดยกล้วยจะถูกบรรจุในกล่องและส่งกลับไปที่จีนทันที่เก็บเกี่ยว