เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 นายภควินทร์ แสงคง ที่ปรึกษาเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเครือข่ายชาวเล อันดามันได้ยื่นหนังสือไปถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอสนับสนุนกองทุนยุติธรรมนำงบประมาณไปใช้ประกันตัวเยาวชนชาวเลมอแกน บ้านเกาะเหลา ตำบลปากน้ำ จังหวัดระนอง 4 รายที่ถูกคุมขังหลังจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรจับกุมในข้อหาบุรุกพื้นที่อุทยานฯ และถูกตำรวจดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาต่างด้าวออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมได้แจ้งเรื่องมาแล้ว และอยู่ระหว่างประสานกับยุติธรรมจังหวัดชุมพรเพื่อเรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยด่วน ซึ่งคาดว่าจะได้ประชุมหารือวันพรุ่งนี้ และจะทราบผลว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

นายภควินทร์ กล่าวต่อว่า คนมอแกน คือ ชาติพันธุ์ดั้งเดิมและมีถิ่นอยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดระนองนานแล้ว การเดินทางของชาวเลบางครั้งก็ต้องมีการประนีประนอมบ้าง ทั้งนี้หลายคนยังอยู่ระหว่างการดำเนินเรื่องขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ และขั้นตอนการขอพิสูจน์สัญชาติก็ค่อนข้างจะนานซึ่งเกาะเหลาดำเนินการมาหลายปีแล้วก็เพิ่งได้รับบัตรประชาชนยืนยันการมีสัญชาติไทยแค่ประมาณ 50 รายเท่านั้น ยังมีอีกมากมายยังต้องรอฟังผล การถูกจำกัดสิทธิเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบหลายด้าน ดังนั้นกรณีนี้นอกจากเรื่องความยุติธรรมแล้วก็เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย

“คาดว่าต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่ารายละ 1แสนบาท ทั้งนี้ปัญหาการดำปลิงในเขตพื้นที่อุทยานฯ นั้นผมอยากให้มองเป็นแยกส่วน ส่วนหนึ่งพื้นที่หากินของชาวเลค่อนข้างจำกัด หลังประกาศเขตอุทยานฯ คนกลุ่มนี้มีปัญหาพื้นที่ทำกินเสมอ ส่วนการไร้สัญชาติ การเป็นชาติพันธุ์นั้น พวกเขาไม่ใช่ต่างด้าวเขาคือ มอแกนที่มีประวัติศาสตร์มานาน และการที่ขอสัญชาติอย่างลำบากเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและถูกจำกัดสิทธิด้านต่างๆมากมาย” นายภควินทร์ กล่าว

ทั้งนี้จากการสอบถามข้อมูลจากเครือข่ายชาวเลอันดามันทราบว่า เยาวชนทั้ง 4 ได้แก่ นายเล็ก , นายบอย ,นายราชู,และนาย บูไน ประมงกิจ ( ประมงกิจ คือ นามสกุลพระราชทาน) ถูกจับกุมเนื่องจากถูกจ้างให้ไปดำหาปลิงทะเล และเข้าไปในพื้นที่อุทยานฯหมู่เกาะชุมพร บริเวณ เกาะแรด หมู่ที่ 6 ตำบล หาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เมื่อ 22.00 น. ของวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 และอุทยานฯชุมพรจับกุมแล้วส่งเรื่องให้ทางตำรวจดำเนินคดี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ตามที่ทาง สถานีตำรวจปากน้ำ จังหวัดชุมพรได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้อหาที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ได้ใช้เรือไม้ติดเครื่องยนต์ไม่มีทะเบียน ใช้เครื่องมือเข้าจับปลิงทะเลซึ่งเป็นสัตว์น้ำประเภทที่ต้องรักษาพันธุ์พืช ที่บริเวณเกาะแรด หมู่ที่ 6 ตำบลหาดทรายรี อำเภอปากน้ำ จังหวัดชุมพร ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานหมู่เกาะชุมพร และเป็นเขตประกาศห้ามทำประมงและจับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพันธุ์พืช จึงถูกเจ้าพนักงานหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตรวจพบการกระทำผิด และจับกุมตัวผู้ต้องหากับพวกพร้อมเรือประมงและอุปกรณ์และปลิงทะเลเป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจได้ระบุว่าการกระทำของผู้ต้องหากับพวกเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันเก็บหา นำสัตว์ออกไปหรือทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเครื่องมือสำหรับจับสัตว์ ล่าสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานฯแห่งชาติโดยไม้ได้รับอนุญาต ร่วมกันเข้าไปทำประมงในที่จับสัตว์น้ำประเภทรักษาพันธุ์พืชโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(2)(3)(15),24,27 และพรบ.ประมง พ.ศ.2490 มาตรา 9 และประกาศจังหวัดชุมพร เรื่อง กำหนดที่จับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพืชพันธุ์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ชั้นแจ้งกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาขณะนี้ดำเนินการอยู่ระหว่างการสอบสวน เมื่อ วันที่ 2 มิถุนายน 2560 ทางตำรวจจึงได้ส่งเรื่องขอคำสั่งศาลในการฝากขังและห้ามประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

นายวิทวัส เทพสง ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวเลอันดามัน กล่าวว่า ชาวมอแกน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์หนึ่งของประเทศไทย ที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะเหลาจังหวัดระนอง ยังไม่มีบัตรประชาชน มีเพียงบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน จึงเป็นข้อจำกัดในการประกอบอาชีพ เป็นช่องว่างให้คนกลุ่มนี้ อาจถูกล่อลวงในการใช้แรงงานได้ ดังนั้นการถูกจับกุมเช่นนี้ยิ่งสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมากขึ้น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.