เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เครือข่ายประชาชนชายแดนใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ หรือ เปอร์มาตามาส (PERMATAMAS) นำโดย นายดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่าย ฯ และชาวบ้านจากอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา รวม 4 คน เดินทางมาร่วมกันอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง “ปกป้องเทพาจากถ่านหิน” โดยมีใจความสรุปว่า พวกตนยืนยันชัดเจนเสมอมาว่าไม่ได้ปฏิเสธการผลิตพลังงานและยังเห็นถึงความสำคัญของความมั่นคงด้านพลังงานของภาคใต้และของประเทศโดยรวม แต่ที่ผ่านมามีความห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในการผลิตไฟฟ้านั้น ไม่เหมาะสมและจะเป็นอันตรายกับคนในพื้นที่ตั้งโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงในวงกว้างซึ่งไม่ใช่แค่ชาวเทพาเท่านั้น รวมถึงผู้คนชุมชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
“การเดินทางมาครั้งนี้ของพวกเรา 4 คน เป็นเพียงตัวแทนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และกำลังจะได้รับความทุกข์อย่างสาหัส เพราะต้องกล้ำกลืนกับวาทกรรมของความเจริญที่มีแต่จะเบียดขับพวกเราออกจากบ้าน” นายดิเรกอ่านแถลงการณ์
ภายหลังอ่านแถลงการณ์แล้วเสร็จชาวบ้านทั้ง 4 รายได้ร่วมกันสวดขอพร(ดุอาอ์) ตามหลักการของศาสนาอิสลาม เพื่อขอพรอัลเลาะห์ให้ช่วยคุ้มครองชาวบ้านพ้นจากภัยอันตรายของถ่านหิน และภัยคุกคาม
นายดิเรก กล่าวภายหลังการอ่านแถลงการณ์ว่า เหตุผลที่ต้องคัดค้านรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเพราะว่าในรายงานนั้น ไม่ได้บอกกล่าวความจริงโดยครบถ้วน ที่ผ่านมาเครือข่ายได้พยายามสื่อสารไปยังรัฐบาลแล้วหลายรอบและใช้วิธีทุกรูปแบบ เพื่อให้ย้อนกลับไปทบทวนและศึกษา EHIA ใหม่ ซึ่งช่วงก่อนหน้านั้น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เองก็เคยได้รับหนังสือจากชาวบ้านเกี่ยวกับข้อทักท้วงต่อกรณีรายงาน EHIA ไม่โปร่งใส แต่กลับปล่อยผ่าน วันนี้จึงต้องมาที่ทส.บ้าง ในเบื้องต้นวางแผนจะนั่งอยู่ราว 2 วัน คือ 23-25 สิงหาคม จนกว่าจะมีการตอบรับจากตัวแทนรัฐบาล เพราะเมื่อผ่านคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) แบบเร่งด่วนแล้ว เราต้องมาดูท่าทีของคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จะเกิดขึ้นในเร็วๆ ไม่มีชาวบ้านคนไหนรับได้ เพราะ EHIA ผ่านไปแค่ในเวลา 9 เดือนดำเนินการอย่างเร่งรัดและไม่รอบด้าน
“ผมจะสู้จนกว่าจะรู้ผล ผมอยากพาทุกท่านทีเกี่ยวข้องไปลงพื้นที่ ไปดูว่า ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นตอนนี้กินดี และเทพามีทั้งทะเล มีแตงโม มีอาชีพ “นายดิเรก กล่าว
ด้านนางรอกิเยาะ สะทะแอ อายุ 55 ปี หนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่ร่วมเคลื่อนไหวครั้งนี้กล่าวว่า ให้ลองคิดดูว่าการที่จะเอาสุขภาพของชาวบ้าน เอาที่ดิน เอาบ้านเรือน ไปแลกกับถ่านหินนำเข้าคุ้มหรือไม่ ส่วนตัวบอกตรงๆว่าทำใจไม่ได้และที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ไม่เคยให้ข้อมูลกับชาวบ้านและเข้ามาปรึกษาหารืออย่างเป็นธรรมเลยสักครั้ง
“เรายกเทพามาที่นี่ไม่ได้ แต่เราอยากให้ทุกคนได้ไปเทพา ที่เรารักษาไว้ไม่ใช่รักษาเพื่อเราลำพัง แต่รักษาแผ่นดินไทย มีทั้งโรงเรียน ศาสนสถานมากมาย” นางรอกิเยอะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการนั่งทำพิธีทางศาสนาอิสลามของชาวบ้านทั้ง 4 รายแล้ว ยังมีศิลปินอิสระ “ประสาท นิรันดรประเสริฐ” ได้ร่วมแสดงผลงานด้วยการพ่นสีข้อความบนแผ่นผ้า เพื่อสื่อสารสู่สาธารณชนและร่วมคัดค้านโรงไฟฟ้าด้วย รวมครั้งมีผู้ไม่เห็นด้วยกับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในเวลาประมาณ 15:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ (สน.บางซื่อ) เจ้าหน้าที่จากทส.ได้มาเจรจากับชาวบ้าน ให้ย้ายออก โดยระบุว่าเป็นห่วงสุขภาพ กลัวฝนจะตกและอาจไม่สบาย ให้ย้ายเข้าด้านในอาคาร แต่ชาวบ้านทั้ง 4 รายยืนยันจะนั่งคัดค้านอยู่ด้านหน้ากระทรวงฯ แม้ว่าฝนจะตกหนักก็ตาม
//////////
