เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2560 นายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมบอร์ดพอช.ว่า ได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการสรรหาผู้อำนวยการ (ผอ.) พอช.ซึ่งคณะอนุกรรมการสรรหาได้ส่งรายชื่อให้บอร์ดพิจารณา 3 รายชื่อ โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายสมชาติ ภาระสุวรรณ รองผู้อำนวยการพอช.ด้วยคะแนนเสียง 7 คะแนน ขณะที่กรรมการอีก 2 คนเลือกนายธีรพล สุวรรณรุ่งเรือง ผู้อำนวยการภาคพอช. ส่วนผศ.ทศพล สมพงษ์ ไม่มีกรรมการลงคะแนนให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมบอร์ดชุดปัจจุบันถึงเลือกผอ.พอช.ทั้ง ๆ ที่กำลังหมดวาระ นายสมพรกล่าวว่า เป็นความตั้งใจของบอร์ดที่ได้กำหนดช่วงเวลาที่ต้องการให้ได้ผอ.พอช.คนใหม่เพื่อให้ทันช่วงเวลาที่คนเก่าหมดวาระในวันที่ 7-8 กันยายน เพราะถ้าหากรอบอร์ดชุดใหม่ก็จะไม่ทัน
เมื่อถามอีกว่า การที่บอร์ดชุดใหม่เป็นผู้เลือกจะทำให้ผอ.พอช.คนใหม่ถูกมองในเรื่องสง่างามหรือไม่เพราะต้องทำงานกับบอร์ดชุดใหม่ ประธานบอร์ดพอช.กล่าวว่าโครงสร้างบอร์ดชุดที่กำลังหมดวาระและชุดต่อไปมีโครงสร้างเหมือนกัน ตนเชื่อมั่นว่าบอร์ดทุกชุดอยากให้ได้คนดีเข้ามาบริหารพอช.
“การคัดเลือกทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความโปร่งใส คณะอนุกรรมการสรรหาต่างหารือกันมาอย่างดี เขาประชุนจนดึงถึง 4-5 ทุ่ม และคัดผู้สมัครออกทีละช่วง จนเหลือ 4 คน และ 3 คนในรอบสุดท้าย” นายสมพร กล่าว
เมื่อถามอีกว่า เป็นการตั้งเป้าเพื่อให้ได้คนในมาดำรงตำแหน่งหรือไม่ นายสมพรกล่าวว่า ไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายให้ได้คนภายในพอช. เพียงแต่ต้องยอมรับว่า หากในแต่ละหน่วยงานมีบุคคลในที่เหมาะสม ย่อมได้เปรียบคนนอก เพราะมีความเชื่อมั่นของคนภายในองค์กรอยู่ด้วย
ประธานบอร์ดพอช.กล่าวว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผอ.พอช.คนใหม่ต้องเข้ามาสร้างฐานล่างให้เกิดความเข้มแข็ง และต้องเน้นการทำงานในเชิงคุณภาพโดยหนุนเสริมภาคประชาสังคมอื่น ๆ เพราะลำพังพอช.นั้น ไม่มีอำนาจที่จะทำได้สำเร็จ ดังนั้นจึงต้องอาศัยความเข้มแข็งของชุมชนเป็นหลัก ที่สำคัญคือเขาต้องมีจิตวิญญาณในการทำงานบูรณาการโดยต้องทำหน้าที่ประสานงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะในอนุภาคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเร่งด่วนคือเร่งมือในหลายเรื่องที่ยังไม่มีธรรมาภิบาลเท่าที่ควร
ขณะที่ผศ.ทศพล สมพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม สภาพัฒนาการเมือง ซึ่งเป็นผู้สมัครผอ.พอช. 1 ใน 3 คนที่เข้าสู่รอบสุดท้ายในการพิจารณาของบอร์ด กล่าวถึงขั้นตอนการคัดเลือกในครั้งนี้ว่า ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสรรหามีความโปร่งใสและเปิดเผยดีมาก โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงวิสัยทัศน์โดยเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายวีดีโอเอาไว้ด้วยโดยแจ้งว่าจะนำไปเปิดให้บอร์ดได้ดู แต่เมื่อสู่การพิจารณาของบอร์ด ซึ่งคณะอนุกรรมการสรรหา ไม่ได้จัดอันดับคะแนนไปให้ และไม่มีการจัดให้แสดงวิสัยทัศน์เหมือนในอดีต โดยไม่มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ จากผู้สมัครทั้ง 3 คน ทำให้ดูว่าเป็นการรวบรัดเกินไปหรือไม่
“กระบวนการตรงนี้อาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงและสงสัยว่า ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาตัดสิน เพราะอาจค้านสายตาสำหรับผู้ที่เคยดูการแสดงวิสัยทัศน์ในรอบแรกมาแล้ว หากเขาต้องการได้คนที่มีวิสัยทัศน์มาทำงาน บอร์ดก็ควรมีข้อมูลมากกว่านี้” ผศ.ทศพล กล่าว