Search

กสม.ลงพื้นที่บางกลอย ชาวบ้านยังเดือดร้อนหนักไม่มีที่ทำกิน เผยปู่คออี้อยู่บนแผ่นดินนี้มาร้อยกว่าปีแต่ยังไม่ได้บัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 ที่บ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนางเตือนใจ ดีเทศน์ ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนสถานะบุคคลของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง นายชาติชาย สุทธิกลม ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม และตัวแทนเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันตก เขตงานตะนาวศรี ลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและปัญหาสถานะทางทะเบียนของชาวบ้านบางกลอยที่ถูกอุทยานแก่งกระจานโยกย้ายลงมาจากในป่าใหญ่

ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านบางกลอยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีปัญหาที่ดินทำกิน และหนังสือร้องเรียนให้ช่วยเหลือชาวบ้าน 4 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจับกุมและส่งให้ตำรวจดำเนินคดีข้อหามีไม้แปรรูปในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งชาวบ้านยืนยันต่อกสม. ว่า ไม้เหล่านั้นมีไว้เพื่อซ่อมแซมบ้านเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาลักลอบตัดไม้เพื่อนำไปขาย

นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของชาวบ้านคือปัญหาที่ดินทำกิน ที่แม้จะได้รับการจัดสรรในปี 2539 แต่ก็ได้ไม่ครบทุกครอบครัว พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นดินลูกรัง และถูกจำกัดพื้นที่ไม่สามารถทำไร่หมุนเวียนได้ ซึ่งเป็นผลกระทบต่อพันธุ์ข้าวและพันธุ์พืชพื้นบ้านหลายชนิดอาจสูญพันธุ์ นอกจากนี้ชาวบ้านที่ครอบครองไม้แปรรูปที่มีเก็บไว้เพื่อสร้างหรือซ่อมแซมบ้านถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ยึดแต่กฎหมายโดยไม่ได้มองถึงเหตุผลของชาวบ้าน

“ท้อแท้ที่ไม่มีที่ทำกิน บางคนต้องเสี่ยงกลับไปที่บางกลอยบน คนที่มีที่ทำกินก็ไม่ได้ผลผลิต ทำ 3-4 ไร่ ได้ข้าวแค่ 2-3 ถุงปุ๋ย โครงการที่เข้ามาช่วยเรื่องอาชีพ เช่น นาขั้นบันไดที่ต้องเป็นดินเหนียว แต่เราเป็นลูกรัง เมื่อปล่อยน้ำก็ซึมหายหมด” นายนิรันดร์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ เจริญสุข ชาวบ้านบางกลอย เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังทำการสำรวจข้อมูลชุมชนในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน ทั้งลำน้ำ ประชากร พื้นที่ทำกินดั้งเดิม-ปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลยืนยันการมีอยู่ของชุมชนดั้งเดิมในป่าแก่งกระจาน ซึ่งในอนาคตหากมีการยกเป็นมรดกโลก ข้อมูลชุดนี้จะเป็นสิ่งที่ยืนยันการมีสิทธิของชุมชน

“จากการเก็บข้อมูลเมื่อต้นปีนี้พบว่า ที่บ้านบางกลอยมีคนถือบัตรเลขศูนย์ (ผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน) 230 ราย ยังไม่มีบัตรประชาชน 68 ราย และผู้มีบัตรประชาชนแล้ว 569 ราย เป็นข้อมูลที่ทางราชการไม่เคยทราบมาก่อน อยากให้มีการแก้ปัญหานี้ก่อนเรื่องอื่น ๆ เพราะถ้าแก้ปัญหาสถานะให้ชาวบ้านได้สำเร็จ สิทธิต่าง ๆ จะตามมาเอง เพราะถ้าไม่มีสถานะ ก็จะเรียกร้องสิทธิอะไรก็ไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นางเตือนใจ ดีเทศน์ กสม. กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสที่ได้มาเยี่ยมเยียนชาวบ้าน พบว่านอกจากปัญหาด้านที่ทำกินที่เดือนร้อนมานาน ชาวบ้านยังมีปัญหาด้านสถานะบุคคลที่มีจำนวนเกือบ 300 คน ที่ยังไม่มีสัญชาติ แม้กระทั่งปู่คออี้ ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่องที่มีอายุถึง 106 ปี ก็ยังมีเพียงบัตรเลขศูนย์ หรือผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ทำให้ไม่ได้รับสิทธิต่าง ๆ เหมือนคนไทย ทั้งที่มีลูกหลานและเป็นที่นับถือของชาวกะเหรี่ยง ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดว่าเป็นคนไทย ดังนั้นหน่วยงานรัฐควรเร่งเข้ามาดูแลปัญหาให้กับชาวบ้านบางกลอย

///////////