สำนักข่าว Karen News รายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในเมืองเมียวดี ติดชายแดนไทย ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังมีกระแสข่าวลืออย่างหนักในโลกโซเชียลว่า กลุ่มก่อการร้ายเตรียมที่จะก่อเหตุความไม่สงบขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ โดยช่วงที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ต่างตื่นตระหนก
หน่ายหม่องซอ เจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาชายแดน (BGF)ในรัฐกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า ข่าวลือบนโลกโซเชียลมีเดียได้ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กลัวและตื่นตระหนกอย่างหนัก ทำให้ทางการต้องออกมาตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มคลายความกังวลลงบ้างแล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่ออกมาคุ้มกันความปลอดภัย โดยทั้งทหารจากกองกำลังรักษาชายแดน ทหารพม่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังประชาชน รวมไปถึงผู้นำทางศาสนา เจ้าหน้าที่บริหารท้องถิ่นได้ประสานร่วมมือกัน ทั้งนี้มีการรักษาความปลอดภัยเข้มทั้งในและนอกเมืองเมียวดี
ทั้งนี้ ได้เกิดข่าวลือว่ากลุ่มก่อการร้ายจะก่อเหตุโจมตีในหลายเมือง หลังจากที่กองทัพพม่าได้ออกมาประกาศเตือนเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางการพม่าอ้างว่ากลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา ARSA มีแผนจะก่อการร้ายตามเมืองเศรษฐกิจสำคัญ อย่างเช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปีดอว์ มะละแหม่งในรัฐมอญ
โดยไม่เพียงแต่ในรัฐกะเหรี่ยงเท่านั้น มีรายงานว่า ทางการในรัฐมอญ เขตตะนาวศรีก็ได้มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดทั้งทางทะเลและทางบก รวมถึงในเขตพะโคด้วย ก่อนหน้านี้ยังมีกระแสข่าวลือออกมาว่า มีเรือต้องสงสัยเข้ามาพักบนเกาะ “บิลู”(Bilu) ในเมืองเชาโซน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองละแหม่ง แต่ทางการในรัฐมอญออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
อีกด้านหนึ่งหน่วยงานบรรเทาทุกข์ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่อพยพหนีไปยังบังกลาเทศอาจเลวร้ายลงถึงขั้นอาจมีผู้เสียชีวิต เนื่องจากผู้ลี้ภัยจะเผชิญกับความอดอยากหิวโหย ทั้งอาหารและน้ำดื่ม เพราะความช่วยเหลือไปไม่ทั่วถึง โดยเรียกร้องให้นานาชาติเร่งช่วยเงินสนับสนุนช่วยเหลือ ขณะที่ตัวเลขผู้ลี้ภัยโรฮิงญาหนีเข้าบังกลาเทศแล้วกว่า 400,000 คน นับตั้งแต่เหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ความเป็นอยู่ของกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงญาขณะนี้พบว่าเลวร้าย โดยผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในเพิงเล็ก ๆ ที่สร้างจากพลาสติกและไม้ไผ่ และกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายฝนตกหนัก ทำให้พื้นที่ที่ชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่เต็มไปด้วยโคลน ส่งผลให้การช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติเป็นไปอย่างยากลำบาก
ล่าสุด ทางการบังกลาเทศได้ออกมาเผยว่า เตรียมที่จะย้ายชาวโรฮิงญาจำนวน 100,000 คนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทางการบังกลาเทศจัดไว้ให้ ส่วนองค์กรฮิวแมนไรท์วอช ออกมาเปิดเผยว่า มีหมู่บ้านชาวโรฮิงญา 62 แห่งถูกเผาราบคาบจากเหตุความรุนแรง ด้านกองทัพพม่าออกมารายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 430 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญาติดอาวุธ ด้านนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐกำลังถูกนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่ไม่เข้าไปห้ามให้ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน โดยนางซูจีเตรียมที่จะออกมาแถลงข่าวและอธิบายต่อนานาชาติในวันพรุ่งนี้ (19 กันยายน) ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางตะวันตกของประเทศ
ที่มา Karen News/Reuters
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ