ทางการพม่าเตรียมจัดงานครบรอบ 2 ปี ที่ได้ลงนามหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 8 กลุ่ม ที่กรุงเนปีดอว์ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยคาดว่าผู้นำระดับสูงของรัฐบาลพม่า ฝ่ายกองทัพพม่า รวมถึงตัวแทนจากลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์จะเข้าร่วมงานในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าให้ความสำคัญกับกระบวนการสันติภาพให้เดินหน้าต่อไป ขณะที่คาดว่า กลุ่มติดอาวุธอีก 4 กลุ่มอาจร่วมลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าในพิธีที่จะจัดขึ้นในกลางเดือนนี้เช่นเดียวกัน
“เราเข้าใจดีว่า รัฐบาลมีหลายประเด็นที่ต้องแก้ปัญหา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน อย่างไรก็ตาม กระบวนการสันติภาพก็ควรถูกยกให้ความสำคัญ ไม่ควรที่จะชะลอเรื่องกระบวนการสันติภาพออกไป เพียงเพราะเรื่องอื่นๆ” ขุนโอก่า จากคณะกระบวนการสันติภาพ (Peace Process Steering Team (PPST)) และอดีตนายพลทหารจากกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติปะโอ Pa-O National Liberation Organization (PNLO) กล่าว
มีรายงานว่า ในวันนี้ (10 ตุลาคม) กลุ่มติดอาวุธทั้ง 8 กลุ่มที่ลงนามหยุดยิงจะร่วมกันหารือกันก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อหาประเด็นที่จะนำไปหารือกับทางฝ่ายรัฐบาลในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยยังเปิดเผยอีกว่า ในงานพิธีที่จะจัดขึ้นนี้ คาดว่า ทางนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ พลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าและทางนายพลมูตู เซพอ ประธานเคเอ็นยูจะขึ้นกล่าวในงาน
ผลของการหารือจากงานในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะมีผลกับทิศทางกระบวนการสันติภาพ รวมถึงมีผลต่อการประชุมใหญ่สัญญาป๋างโหลงครั้งที่ 3 ที่คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมของปีนี้ ขุนโอก่ากล่าว นอกจากนี้ยังเผยว่า กลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มที่ลงนามหยุดยิงมีแผนจะพบหารือกับนางซูจี หลังวันที่ 15 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่า กลุ่ม UNFC ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงกลุ่มติดอาวุธ 4 กลุ่มเท่านั้นที่เป็นสมาชิกอย่าง พรรครัฐมอญใหม่ (New Mon State Party) พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party) สหภาพประชาธิปไตยลาหู่ (Lahu Democratic Union)และสภาแห่งชาติอาระกัน (Arakan National Council) อาจจะลงนามหยุดยิงแห่งชาติกับรัฐบาลพม่าในงานพิธีที่จะจัดขึ้นในกรุงเนปีดอว์ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า กองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ได้จับกุมและกักขังชาวบ้านจำนวน 60 คนไว้ ในจำนวนนี้มีทั้งชาวสวนกล้วยและชาวบ้านจากหมู่บ้านในเมืองไวหม่อ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า มีชาวบ้านจำนวน 8 คนได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่ชาวบ้านที่เหลือขณะนี้อีก 52 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งทางทหารคะฉิ่น KIA และทางกองทัพพม่ายังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่องทางภาคเหนือของประเทศ โดยการเจรจาหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่เป็นผล
ที่มา DVB/Myanmar Times
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ