สำนักข่าว Laotian Time รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า เส้นทางการเดินเรือท่องเที่ยวบนแม่น้ำอู ลำน้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงในสปป.ลาว ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวได้ถูกยกเลิกไปแล้วเพราะผลกระทบจากเขื่อนแห่งใหม่ นับเป็นการสิ้นสุดการล่องเรือบนแม่น้ำที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยและใส
รายงานข่าวระบุว่า มีประกาศอย่างเป็นทางการโดยหน่วยงานรัฐท้องถิ่นซึ่งยืนยันว่า เมื่อเขื่อนน้ำอู 3 ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะยุติการเดินเรือทุกชนิดระหว่างเมืองบนแม่น้ำอู โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้แจ้งแก่บริษัทคู่ค้าในต่างประเทศของตนถึงการเตรียมการหยุดการเดินเรืออย่างถาวรบนแม่น้ำอู ระหว่างเมืองหนองเขียว แขวงพงสาลี และเมืองขัว แขวงหลวงพระบาง
แม่น้ำอูไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ทางเหนือของเมืองหลวงพระบาง ตรงข้ามกับบริเวณถ้ำติ่งการเดินทางจากเมืองหลวงพระบางไปยังเมืองหนองเขียว มีระยะทางประมาณ 142 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงหากใช้เส้นทางถนน ขณะที่เมืองขัวอยู่ตอนเหนือเมืองหนองเขียวขึ้นไปตามลำน้ำ การเดินทางไปยังสองเมืองนี้ทางถนนใช้เวลานานกว่าทางเรือถึง 210 กิโลเมตรหรือประมาณ 5 ชั่วโมง
ข่าวระบุว่า การปิดกั้นลำน้ำอูเนื่องจากเขื่อนผลิตไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นของทั้งสองเมือง การลดลงของการเดินเรือบนแม่น้ำอูจะทำให้ทำให้นักท่องเที่ยวจากนานาชาติต้องผิดหวัง เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดของการได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติทางภาคเหนือของลาว เส้นทางนี้จะถูกแทนที่ด้วยรถประจำทาง ไปตามถนนที่อาจจะตัดผ่านหุบเขาและริมแม่น้ำอู
ทั้งนี้การจำกัดการเดินเรือระหว่างหนองเขียวและหลวงพระบางจะเกิดอุปสรรค ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับการแจ้งเตือนว่า อาจจะต้องมีการท่องเที่ยวแบบสลับ โดยใช้ทั้งเรือและรถ
แม้ว่าการล่องเรือบนแม่น้ำโขงจะยังสามารถทำได้ปกติ แต่การปิดกั้นการล่องเรือบนแม่น้ำอูในช่วงที่เป็นฤดูท่องเที่ยวในลาวและหลวงพระบางจะสร้างปัญหา ซึ่งการล่องเรือบนแม่น้ำโขงและแม่น้ำอูเพื่อชมธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักท่องเที่ยว
อนึ่ง แม่น้ำอูเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขงที่ใหญ่ที่สุดในลาว ซึ่งในอดีตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีความงามทั้งในด้านภูมิประเทศที่ไหลผ่านหุบเขาและมีความใสราวกระจก และยังเป็นสายน้ำที่กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้พึ่งพา โดยแม่น้ำอูไหลบรรจบแม่น้ำโขงที่บริเวณปากอู แขวงหลวงพระบาง โดยทางการลาวได้ให้สัมปทานแม่น้ำสายนี้ตลอดสายกับบริษัทไชน่าพาวเวอร์รีซอสเซส ปัจจุบันมีการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำจำนวน 7 แห่ง โดยก่อสร้างเสร็จไปแล้วจำนวน 3 แห่งคือ เขื่อนน้ำอู 2,5,6 และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 4 แห่งคือ เขื่อนน้ำอู 1,3,4,7