เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 นายสุรชัย ตรงงาม ทนายความมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม หรือ EnLaw ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯให้ดูแลความดวกและห้ามปิดกั้นการทำกิจกรรม “We Walk เดินมิตรภาพ”ซึ่งเครือข่าย People Go จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมโดยการเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี ไปยังจังหวัดขอนแก่นว่า โดยสรุปคือศาลให้การรับรองเรื่องสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมว่าสามารถทำได้ หากไม่ดำเนินการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย โดยเชื่อว่าในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีเหตุปิดกั้นหรือทำการใดๆ ให้เกิดความหวาดกลัวซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้นศาลจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามกฏหมาย แต่หากผู้ชุมนุมกระทำการใดๆ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตำรวจสามารถมีคำสั่งให้เลิกการชุมชุนหรือร้องขอต่อศาลแพ่งให้สั่งเลิกการชุมนุมได้ (คลิก อ่านรายละเอียดคำสั่งศาลปกครอง )
นายสุรชัยกล่าวว่า ในการต่อสู้คดีนั้นทางฝ่ายจำเลยพยายามอ้างถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ว่า ฝ่ายผู้จัดกิจกรรมกระทำผิด แต่ฝ่ายโจทย์ได้ยืนยันโดยหลักการว่าเป็นการชุมนุมอย่างถูกต้องและมีการขออนุญาต โดยมีหลักฐานหนังสือตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ในหลายฉบับ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าคำสั่งคสช.ฉบับนี้ยังมีปัญหาเพราะถูกนำไปตีความกว้างขวางเกินไปจนกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนซึ่งในรัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยของศาลในครั้งนี้จะทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ในการชุมนุมขึ้นหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า คำสั่งนี้เป็นการให้ความคุ้มครองชั่วคราว แต่คดีที่ฟ้องร้องกันตามปกติก็ยังต้องดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้จัดกิจกรรมสามารถดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้และขออนุญาตแล้ว เช่น การเดินครั้งละ 50-100 คน หรือการจัดเสวนา ซึ่งในรายละเอียดคงต้องหารือกันอีกครั้ง
“ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แม้จะเป็นความเห็นต่างจากรัฐบาล มิใช่การชุมนุมอย่างเดียว แต่เป็นการแสดงออกในลักษณะต่างๆ ที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าจะแสดงออกโดยการชุมนุมก็ควรทำหนังขออนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหน้าที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้ แต่หากเห็นว่าการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ได้คุกคาม หรือกดดัน ก็สามารถรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้ใช้ในการร้องต่อศาลได้” นายสุรชัย กล่าว