องค์กรไทใหญ่อย่าง “ก๋อไตย” หรือ Kaw Dai เตรียมจัดงานในชื่อ “กาดไตย” หรือแปลว่า ตลาดไทใหญ่ ระหว่างวันที่ 20 – 22 ก.พ. 2561 ที่ศูนย์การเรียนรู้ขององค์กรก๋อไตย หมู่บ้านกอง ตำบลต้าโป่ง เมืองล่าเสี้ยว ทางตอนเหนือของรัฐฉาน โดยผู้จัดงานหวังยกระดับสินค้าพื้นบ้านไทใหญ่และกระตุ้นชุมชนจับจ่ายซื้อขายสินค้าไทใหญ่ กินอาหารไทใหญ่ โดยภายในงานจะมีการเชิญนักธุรกิจ นักวิชาการ และผู้มีความรู้ในด้านการทำธุรกิจทั้งจากในพม่าและจากจังหวัดเชียงใหม่มาร่วมเสวนาและให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย
ภายในงานมีการเผยแพร่ให้ความรู้ในการผลิตของใช้พื้นบ้านไทใหญ่ การแสดงวัฒนธรรมประเพณีของไทใหญ่ การร้องรำทำเพลงแบบไทใหญ่ และมีอาหารไทใหญ่ให้เลือกซื้อ โดยงานกาดไตยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 – 22 ก.พ. ด้านสำนักข่าวไทใหญ่ป๋างโหลงรายงานว่า องค์กรก๋อไตยยังจะเชิญนักธุรกิจไทใหญ่อย่างนายตานหม่อง เจ้าของยาสมุนไพรพื้นบ้านตรา “เสือห้าตัว” ที่เป็นที่รู้จักในรัฐฉานมาร่วมเสวนาให้ความรู้เรื่องการทำธุรกิจให้กับผู้เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีการเชิญรองนายกสมาคมด้านการศึกษาและวัฒนธรรมไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และนักธุรกิจชาวไทใหญ่อีกหลายคนมาร่วมแลกเปลี่ยนด้วย
จายแลงคำ จากองค์กรก๋อไตยระบุถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายซื้อขายสินค้าไทใหญ่ รวมถึงสินค้าเกษตรกรรม เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้การจัดงานยังจัดขึ้นเพื่อให้ยกระดับและรักษาอนุรักษ์สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านของไทใหญ่ โดยเป็นการจัดงานครั้งแรก และหากมีโอกาสอีกในอนาคตทางองค์กรก๋อไตยจะจัดต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ มีรายงานว่า งานกาดไตยได้รับความสนใจจากชาวไทใหญ่เป็นจำนวนมาก
องค์กรก๋อไตยเป็นองค์กรเพื่อชุมชนตั้งอยู่ในรัฐฉาน ส่งเสริมในเรื่องประชาธิปไตย การสร้างสันติภาพและความยุติธรรมผ่านการให้การศึกษาแก่คนหนุ่มสาวไทใหญ่จากในรัฐฉาน โดยยังทำงานด้านรณรงค์ให้ความรู้ให้กับองค์กรรากหญ้าในรัฐฉานเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม องค์กรก๋อไตยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเคยเป็นแรงงานที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทย
องค์กรก๋อไตยยังมีโรงเรียนแห่งชาติไทใหญ่ที่เมืองก่าลี่ และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังก่อตั้งวิทยาลัยแห่งชาติไทใหญ่เพื่อเปิดรับคนหนุ่มสาวเข้าเรียน นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเยาวชนไทใหญ่ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย ที่มีนักศึกษาชาวไทใหญ่จากองค์กรนี้หลายคนได้จบการศึกษาและกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย องค์กรก๋อไตยยังมีโครงการให้ความรู้ในด้านการทำเกษตรแบบยั่งยืนและปลอดสารพิษ ที่ศูนย์การเรียนรู้ต้าโป่งที่เมืองล่าเสี้ยวอีกด้วย
ที่มา Kaw Dai/Panglong
